ข่าวเกี่ยวกับ JamboLive
ในยุคปัจจุบัน การเปิดตัวและขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่หลายแบรนด์เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบ B2B (Business to Business) หรือ B2C (Business to Customer) แต่ทำไมถึงยังมีหลายแบรนด์ที่ไม่ประสบความสำเร็จเมื่อก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล?
ปัญหาหลักที่มักพบเจอ ได้แก่:
การตลาดไม่มีประสิทธิภาพ:
งบโฆษณาที่ใช้ไปกลับไม่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
การขายยาก:
แม้ว่ามีผู้เข้าชมมากมาย แต่การปิดการขายยังคงเป็นเรื่องท้าทาย
ต้นทุนผลิตภัณฑ์สูง:
มีคู่แข่งที่มีสินค้าคล้ายกันแต่ราคาถูกกว่า
ถึงแม้การขายออนไลน์จะเปิดโอกาสให้เข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมาก แต่ผู้บริโภคในยุคนี้ให้เวลาศึกษาสินค้าน้อยลง เจ้าของแบรนด์จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอที่สามารถสร้างความสนใจและเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
การขายแบบไลฟ์: โอกาสหรือทางลัดที่ล้มเหลว?
หลายแบรนด์หันมาใช้การขายสินค้าผ่านการถ่ายทอดสด (Live) ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ อย่าง Facebook, Instagram หรือ TikTok ซึ่งการขายแบบไลฟ์เป็นช่องทางที่ต้นทุนต่ำและมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างการเชื่อมโยงกับลูกค้า แต่ทำไมถึงยังมีแบรนด์ที่ล้มเหลวในการใช้ช่องทางนี้?
สาเหตุหลักมาจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการไลฟ์และการขายออนไลน์ที่ยึดติดกับความเชื่อเดิมๆ
ความเชื่อที่ 1: "การจัดห้องไลฟ์ไม่จำเป็นต้องพิถีพิถัน"
หลายร้านค้ามักจะคิดว่าการไลฟ์เพียงแค่ใส่โลโก้ร้านและวางสินค้าที่จะขายโชว์ก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง ห้องไลฟ์เป็นเหมือนหน้าร้านที่ดึงดูดสายตาผู้ชม ดังนั้น การจัดแสง การออกแบบห้อง และการเตรียมตัวของผู้ดำเนินรายการไลฟ์มีความสำคัญมาก สร้างบรรยากาศที่เป็นมืออาชีพและให้สินค้าดูโดดเด่น เพื่อสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้ชม
ความเชื่อที่ 2: "อินฟลูเอนเซอร์คือคำตอบ"
การใช้คนดังหรืออินฟลูเอนเซอร์มาเป็นผู้ดำเนินการไลฟ์อาจทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นในระยะสั้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการสร้างความเข้าใจในแบรนด์และสินค้า หากผู้ชมซื้อตามอินฟลูเอนเซอร์ พวกเขาอาจจะไม่กลับมาซื้อซ้ำ เพราะความชอบนั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่าสินค้าเอง แบรนด์ควรเน้นที่การสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับลูกค้าโดยตรง
ความเชื่อที่ 3: "ไลฟ์คือการขายอย่างเดียว"
หลายคนมองว่าการไลฟ์คือการขายเพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้ว การไลฟ์ต้องเป็นทั้งการเล่าเรื่องแบรนด์ การสร้างตัวตน และการขายไปพร้อมๆ กัน การเล่าเรื่องราวของสินค้า และการทำให้ลูกค้าเข้าใจคุณค่าและที่มาของสินค้าจะทำให้การขายมีประสิทธิภาพมากขึ้นและยั่งยืน
บทสรุป: การสร้างกลยุทธ์ไลฟ์ที่ยั่งยืน
แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการขายผ่านไลฟ์ไม่ใช่แค่เน้นการขาย แต่ต้องรวมการสร้างตัวตนของแบรนด์และการเชื่อมโยงกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ความสามารถในการปรับตัวตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์และการวิเคราะห์ข้อมูลการขายจากไลฟ์แต่ละครั้งจะทำให้แบรนด์สามารถพัฒนากลยุทธ์ให้สอดคล้องกับตลาดและความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
ผู้เขียน: คุณเจิ้ง ไคหยาง (Kasper)
ผู้ร่วมก่อตั้ง Jambolive แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซถ่ายทอดสดที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน
มุ่งมั่นใช้เทคโนโลยี ข้อมูล และเนื้อหา เพื่อถ่ายทอดแนวคิดการตลาดผ่านการไลฟ์
ติดตามข้อมูลใหม่ๆได้ที่:
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE:https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
JamboLive จับมือกับ Kbank มอบข้อเสนอพิเศษสุดคุ้มให้กับลูกค้า Kbank ที่ทำธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายหรือการขยายธุรกิจให้เติบโต มาดูกันว่ามีสิทธิพิเศษอะไรบ้างที่คุณไม่ควรพลาด!
1. สมัคร Package JamboLive รายปี รับฟรี 6 เดือน
ลูกค้า Kbank สมัคร Package รายปีของ JamboLive วันนี้ รับสิทธิ์ใช้งานเพิ่มอีก 6 เดือนทันที รวมเป็น 18 เดือน! ช่วยให้การจัดการร้านค้าออนไลน์ของคุณเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการดูดออเดอร์จากไลฟ์สด ระบบแชท หรือการวิเคราะห์ยอดขาย ทุกอย่างครบจบในที่เดียว
2. ตรวจสลิปฟรี 5,000 สลิป
ลูกค้า Kbank ที่ใช้บริการ JamboLive จะได้รับสิทธิ์ตรวจสอบสลิปฟรีถึง 5,000 สลิป! หมดกังวลเรื่องการตรวจสอบยอดเงิน มั่นใจได้ว่าทุกยอดเข้าครบถ้วนและปลอดภัย
3. ใช้ฟีเจอร์ยิงแอดขณะไลฟ์สด ฟรี!
พิเศษสำหรับลูกค้า Kbank! ใช้ฟีเจอร์ยิงแอดขณะไลฟ์สดฟรี ช่วยเพิ่มยอดขายและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ระบบการเงินที่คล่องตัวและปลอดภัย
จัดการการเงินของร้านค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยผ่าน Kbank ไม่ว่าจะเป็นการรับชำระเงิน การโอน หรือการตรวจสอบยอดขาย ทุกขั้นตอนง่ายดายและปลอดภัย
5. ทีมงานสนับสนุนจาก JamboLive และ Kbank
ลูกค้า Kbank ที่ใช้งาน JamboLive จะได้รับการสนับสนุนจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัท คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างราบรื่น
อย่าพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ สมัครใช้บริการวันนี้เพื่อรับสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นสุดคุ้มจาก JamboLive x Kbank ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายธุรกิจของคุณให้เติบโตไปอีกขั้น!
ติดต่อเรา:
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE:https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
การขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การทำตลาดหรือการจัดการสต็อก แต่ยังรวมถึงการดูแลจัดการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในนั้นคือการป้องกันความเสียหายจากลูกค้าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วยระบบแบล็คลิส ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดความเสี่ยงให้ร้านค้า มาดูกันว่าลูกค้าประเภทไหนที่มีแนวโน้มจะถูกจัดอยู่ในระบบแบล็คลิสได้บ้าง
ลูกค้าที่ไม่ยอมชำระเงินหรือค้างชำระ
ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าแล้วไม่ยอมชำระเงิน หรือค้างชำระเป็นเวลานาน อาจสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจ ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะถูกแบล็คลิสเพื่อป้องกันการทำธุรกรรมซื้อขายซ้ำในอนาคต
ลูกค้าที่กดสั่งแล้วไม่รับสินค้า
หนึ่งในปัญหาที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เจอบ่อยคือ ลูกค้าที่กดสั่งซื้อสินค้าแล้วไม่รับ หรือปฏิเสธสินค้าทันทีเมื่อมาถึง การส่งสินค้าคืนกลับมา ทำให้ร้านค้าต้องเสียค่าใช้จ่ายและเสียเวลา
ลูกค้าที่เคลมสินค้าบ่อยเกินไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร
การเคลมหรือขอเปลี่ยนสินค้าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าลูกค้าบางคนทำเช่นนี้บ่อยครั้งโดยไม่มีเหตุผลสมควร ก็อาจทำให้ร้านค้าขาดทุนและเสียโอกาส ลูกค้าประเภทนี้อาจถูกแบล็คลิสเพื่อป้องกันการสร้างปัญหาในอนาคต
ลูกค้าที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ลูกค้าที่ใช้ภาษาก้าวร้าว หรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการติดต่อ เช่น การแชทหรือการคอมเมนต์ อาจถูกจัดในแบล็คลิส เพื่อรักษาบรรยากาศที่ดีและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้ารายอื่น ๆ
ลูกค้าที่โกงหรือพยายามทุจริต
ลูกค้าที่พยายามโกง หรือให้ข้อมูลเท็จในการทำธุรกรรม ถือเป็นความเสี่ยงสูงสำหรับร้านค้า ลูกค้าประเภทนี้ควรถูกแบล็คลิสเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดิมอีกครั้ง
การใช้ระบบแบล็คลิสช่วยให้ร้านค้าจัดการกับลูกค้าที่มีพฤติกรรมเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันความเสียหายและลดความเสี่ยง ทำให้ร้านค้าสามารถโฟกัสกับการขายและการให้บริการลูกค้าที่ดีได้อย่างเต็มที่ JamboLive ของเรา มีฟีเจอร์ระบบแบล็คลิสที่จะช่วยร้านค้าออนไลน์ในการป้องกันความเสียหาย และคัดกรองลูกค้าที่เข้ามาซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพ
ติดต่อเรา
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
วันที่ 23 กันยายน 2567 นี้ JamboLive ร่วมมือกับ Meta Thailand จัดสัมมนาพิเศษสำหรับผู้ประกอบการออนไลน์ยุคใหม่ มาร่วมเรียนรู้เทคนิคการขายและการทำตลาดดิจิทัลที่ทันสมัย ผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Facebook และ Instagram รวมถึงการใช้งานฟีเจอร์ JamboLive ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายและบริหารจัดการธุรกิจออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หัวข้อสำคัญในงานสัมมนาครั้งนี้
1. เพิ่มยอดขายด้วย Meta Ads และ JamboLive
เรียนรู้วิธีการสร้างแคมเปญโฆษณาผ่าน Meta Ads ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมการเชื่อมต่อกับระบบ JamboLive เพื่อจัดการคำสั่งซื้อและตอบสนองลูกค้าแบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มยอดขายและดึงดูดลูกค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เพิ่มประสิทธิภาพการขายของร้านค้าด้วย JamboLive
JamboLive ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์จัดการคำสั่งซื้ออย่างเป็นระบบ ดูดออเดอร์จากไลฟ์สด รวมถึงรวมแชทจากหลายแพลตฟอร์ม ทำให้การบริหารจัดการธุรกิจง่ายขึ้น ลดความซับซ้อน และเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น
3. สร้างแคมเปญและวิเคราะห์ร้านค้าด้วย JamboLive
ในหัวข้อนี้คุณจะได้เรียนรู้การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลใน JamboLive เพื่อสร้างแคมเปญโฆษณาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าอย่างแม่นยำ ช่วยให้คุณปรับปรุงแผนการตลาดและแคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. สร้างกลุ่มเป้าหมายจากข้อมูลของ JamboLive
นำข้อมูลจาก JamboLive มาวิเคราะห์และสร้างกลุ่มเป้าหมาย (Audience) ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ช่วยให้การยิงแอดโฆษณามีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด นำไปสู่การปิดการขายที่เร็วและตรงตามเป้า
ประโยชน์ที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับ
เข้าใจการใช้เครื่องมือ Meta และ JamboLive เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายออนไลน์อย่างลึกซึ้ง
ได้รับความรู้จากกรณีศึกษาจริงที่ประสบความสำเร็จ และสามารถนำกลยุทธ์เหล่านั้นมาปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้
โอกาสในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญจากทั้ง Meta และ JamboLive เพื่อช่วยต่อยอดธุรกิจของคุณ
การร่วมมือระหว่าง JamboLive และ Meta Thailand ครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการจะได้เรียนรู้การใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างความสำเร็จในตลาดออนไลน์ยุคดิจิทัล
รายละเอียดการสัมมนา
🗓️ วันที่: 23 กันยายน 2567
⏰ เวลา: 13:00-14:30 น.
📍 สถานที่: SILQ Hotel & Residence Bangkok
ลงทะเบียน: http://m.me/jamboliveth
หมดเขตรับสมัคร: 15 กันยายน 2567
ติดต่อเรา
LINE: @jamboliveth
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv
โทร: 095-174-4436
การขายของออนไลน์เป็นช่องทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับการทำธุรกิจ แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นธุรกิจ มี 5 สิ่งสำคัญที่ควรรู้เพื่อเตรียมตัวและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของร้านค้าเรา
1. ทำความเข้าใจตลาดและกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ
การรู้จักตลาดที่จะเข้าร่วมและกลุ่มลูกค้าที่คุณต้องการเข้าถึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องทำการศึกษาเเละวิจัยตลาดเพื่อเข้าใจความต้องการ แนวโน้ม และพฤติกรรมของลูกค้า สิ่งนี้จะช่วยให้ร้านค้าของคุณสามารถเลือกสินค้าและวางแผนการตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เลือกแพลตฟอร์มการขายที่เหมาะสมกับธุรกิจของร้านค้า
มีหลายแพลตฟอร์มที่สามารถใช้ขายของออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada,Facebook,IG, หรือเว็บไซต์ของร้านค้าเอง เลือกแพลตฟอร์มที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของร้านค้าได้ดีที่สุด และพิจารณาว่าฟีเจอร์และค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มนั้นเหมาะสมกับธุรกิจของร้านค้าหรือไม่
3. เลือกแพลตฟอร์มที่ดูเเลเกี่ยวกับระบบหลังบ้านจัดการสต็อกและระบบการจัดส่งอย่างมืออาชีพ
การจัดการสต็อกสินค้าเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าร้านค้ามีสินค้าพร้อมส่งอยู่เสมอ เลือกใช้ระบบจัดการสต็อกที่เหมาะสม และวางแผนการจัดส่งให้รวดเร็วและตรงเวลา เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
4. ตั้งราคาที่เหมาะสมและมีลูกเล่นในการขาย
การตั้งราคาที่สมเหตุสมผลและสามารถแข่งขันได้เป็นสิ่งสำคัญ ร้านค้าควรศึกษาราคาตลาดและต้นทุนของคุณอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ราคาที่ลูกค้ายินดีจ่ายและคุณยังคงมีกำไร นอกจากนี้ การเสนอโปรโมชั่น ส่วนลด หรือ เกมส์กิจกรรม เคมเปญ เป็นระยะๆ ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้า
5. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์และการสร้างแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ
การตลาดออนไลน์เป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มยอดขาย การใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัล เช่น SEO, การโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย และการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ จะช่วยให้ร้านค้าของเราเป็นที่รู้จัก นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งจะช่วยให้ร้านค้าของเราโดดเด่นจากคู่แข่งและสร้างความเชื่อมั่นในใจลูกค้า
สรุป
การขายของออนไลน์ต้องอาศัยการเตรียมตัวที่ดีในหลายๆ ด้าน ทั้งการรู้จักตลาด การเลือกแพลตฟอร์ม การจัดการสต็อก การตั้งราคา และการทำการตลาด การเข้าใจและจัดการทั้ง 5 สิ่งสำคัญนี้จะช่วยให้คุณสร้างธุรกิจออนไลน์ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้สูงสุด!
สนใจสมัครเเล้ววันนี้ ทักเลย!
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
"สมัคร JamboLive วันนี้ รับสิทธิพิเศษทันที!"
ถ้าคุณเป็นลูกค้า Beam และกำลังมองหาโซลูชันที่ช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเติบโตอย่างรวดเร็ว JamboLive มีข้อเสนอพิเศษสำหรับคุณ! เพียงสมัครสมาชิก JamboLive วันนี้ รับสิทธิพิเศษมากมายทันที
🎁 โบนัสเครดิตตัดบิลฟรี
รับเครดิตตัดบิลมูลค่า 1,000 บาททันทีหลังสมัครสมาชิก เพื่อช่วยคุณเริ่มต้นใช้งาน JamboLive อย่างคุ้มค่า
🎉 ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
ลองใช้ JamboLive ฟรี 30 วัน สัมผัสฟีเจอร์ครบครันโดยไม่มีข้อผูกมัด ดูว่ามันช่วยธุรกิจคุณได้อย่างไร
🛠️ การสนับสนุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญ
รับคำแนะนำจากทีม JamboLive เพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ตรงกับธุรกิจของคุณ
อย่าพลาดโอกาสดีๆ นี้! สมัคร JamboLive วันนี้และรับสิทธิพิเศษเหล่านี้ไปเลย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผู้ประกอบการที่เติบโตไปกับเรา!
JamboLive X Beam
สนใจสมัครเเล้ววันนี้ ทักเลย!
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
การขายของออนไลน์เป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกคนได้เข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศหรือแม้กระทั่งทั่วโลก แต่การทำให้ร้านค้าของเราโดดเด่นและขายดีในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนั้นต้องใช้กลยุทธ์ที่ดี
5 ทริคเด็ดที่จะช่วยให้การขายของออนไลน์ประสบความสำเร็จ! มีอะไรบ้างมาดูกัน!
1. ใช้ภาพและวิดีโอคุณภาพสูง
ภาพสินค้าที่สวยงามและคมชัดเป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้า ถ่ายภาพสินค้าจากมุมที่หลากหลายและใช้แสงที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นรายละเอียดที่สำคัญ นอกจากนี้ การสร้างวิดีโอรีวิวหรือการใช้งานสินค้าจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
2. เขียนคำบรรยายสินค้าให้ชัดเจนและน่าสนใจ
คำบรรยายสินค้าที่ดีควรบอกให้ลูกค้ารู้ว่าสินค้าของคุณมีจุดเด่นอะไร และสามารถแก้ปัญหาหรือเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย กระชับ และถ้าเป็นไปได้ ควรมีคำแนะนำการใช้งานหรือการดูแลรักษาสินค้าเพิ่มเติม
3. โปรโมตหรือยิงแอดผ่านโซเชียลมีเดีย
โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการโปรโมตสินค้า ใช้ Facebook, Instagram, และ TikTok เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ เช่น การไลฟ์สดแนะนำสินค้า การแจกของรางวัล หรือการทำกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้ติดตามเข้าร่วมและแชร์โพสต์ของคุณ
4. ตอบกลับลูกค้าอย่างรวดเร็วไม่ปล่อยเวลานาน
ความเร็วในการตอบกลับลูกค้าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ เมื่อมีลูกค้าสอบถามข้อมูล ควรตอบกลับอย่างรวดเร็วและสุภาพ พร้อมให้ข้อมูลที่ครบถ้วน การตอบสนองที่ดีจะช่วยสร้างความประทับใจและเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
5. ใช้ระบบการจัดการหลังบ้านที่ดี
ระบบการจัดการหลังบ้านช่วยให้การทำงาน เช่น การจัดการสต็อก การรับออเดอร์ และการจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างมีระเบียบ ลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากการทำงานด้วยมือ เช่น การส่งสินค้าผิดหรือข้อมูลที่ไม่ตรงกัน และอาจะทำให้ลูกค้า รู้สึกไม่ไว้วางใจร้านค้าของเรา ทำให้เสียฐานลูกค้าเก่าๆ
หากทุกคนมีทั้ง 5 ทริค เด็ดในการขายของออนไลน์ไว้ในมือเเล้ว ก็อย่าลืมเลือกระบบการจัดการหลังบ้านที่ดีและระบบหลังบ้านนั้นสามารถช่วยเหลือร้านค้าของเราได้อย่างตรงจุดเเละตอบโจทย์กันด้วยน้า
สนใจระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ ทักเลย!
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
การขายสินค้าออนไลน์สมัยนี้ไม่เพียงแค่ต้องการความสะดวกในการจัดการออเดอร์และการตอบกลับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังต้องการความน่าสนใจและกลยุทธ์ที่ดึงดูดลูกค้าให้มีส่วนร่วมกับร้านค้าอีกด้วย ซึ่งฟีเจอร์การขายสินค้าแบบประมูลของ JamboLive เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้ร้านค้าสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้าและเพิ่มยอดขายเเละขยายธุรกิจของร้านค้าได้อย่างง่ายดาย
6 ข้อดีของฟีเจอร์ประมูลสินค้า จาก JamboLive
1. สร้างความตื่นเต้นและดึงดูดลูกค้า
การขายสินค้าแบบประมูลเป็นวิธีการขายรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นเต้นและสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ลูกค้ามีโอกาสที่จะได้สินค้าที่ต้องการในราคาที่พวกเขาพอใจ ทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างลูกค้า เพิ่มความสนุกสนานและความตื่นเต้นในการช้อปปิ้งออนไลน์
2. เพิ่มยอดขายและกระตุ้นความต้องการ
ฟีเจอร์การประมูลช่วยกระตุ้นความต้องการของลูกค้าในสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่มีจำนวนจำกัดหรือเป็นสินค้าหายาก การประมูลทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เพราะพวกเขาไม่อยากพลาดโอกาสในการได้สินค้าดีในราคาพิเศษ
3. สร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในแบรนด์
การขายแบบประมูลทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการกำหนดราคาสินค้า ซึ่งช่วยสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในร้านค้าของเรา ลูกค้าจะรู้สึกว่าพวกเขาได้รับความคุ้มค่าและมีอำนาจในการตัดสินใจซื้อ
4. จัดการง่ายและสะดวก
ฟีเจอร์การประมูลใน JamboLive ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อสามารถเข้าถึงและใช้งานได้โดยไม่ยุ่งยาก ผู้ขายสามารถตั้งค่าการประมูลได้อย่างรวดเร็ว และระบบจะจัดการการประมูลให้อัตโนมัติ ทำให้ร้านค้าสามารถโฟกัสกับการให้บริการลูกค้าได้มากขึ้น
5. ขยายฐานลูกค้าใหม่
การประมูลเป็นกิจกรรมที่สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาในร้านของคุณได้ ลูกค้าที่สนใจการประมูลมีแนวโน้มที่จะติดตามสินค้าของคุณมากขึ้น และหากพวกเขาพึงพอใจในประสบการณ์นี้ พวกเขาอาจกลายเป็นลูกค้าประจำของคุณ
6. ปรับแต่งได้ตามความต้องการ
คุณสามารถกำหนดกติกาการประมูลได้ตามความเหมาะสม เช่น การตั้งราคาประมูลเริ่มต้น ระยะเวลาการประมูล และเงื่อนไขการชนะการประมูล ทำให้ร้านค้าสามารถควบคุมการขายได้ตามกลยุทธ์ที่ร้านค้าต้องการ
ฟีเจอร์การขายสินค้าแบบประมูล
ของ JamboLive เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจเเละสร้างความดึงดูดให้กับการขายออนไลน์ของร้านค้า ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นยอดขาย แต่ยังสร้างความสนุกสนานและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทำให้พวกเขากลับมาซื้อสินค้ากับร้านค้าอีกครั้ง เเละสามารถสร้างฐานลูกค้าประจำได้อย่างง่ายดาย
ใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อ ยกระดับการขายสินค้าของร้านค้าและสร้างความแตกต่างในตลาดออนไลน์ได้แล้ววันนี้!
สนใจระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ ทักเลย!
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
ในยุคที่ธุรกิจออนไลน์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การขยายช่องทางการขายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า แพลตฟอร์ม E-mall เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังในการช่วยขยายธุรกิจของร้านค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อรวมกับฟีเจอร์เด็ดจาก JamboLive ร้านค้าจะได้รับประโยชน์มากมายที่ช่วยให้การขายออนไลน์ของร้านค้ามีความง่ายและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องขายบนแพลตฟอร์ม E-mall?
การขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม E-mall ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่ยังช่วยขยายฐานลูกค้าและสร้างการรับรู้ในร้านค้าของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม E-mall ยังเป็นที่รวมสินค้าหลากหลายประเภท ทำให้ลูกค้ามีโอกาสค้นพบสินค้าของร้านค้าได้ง่ายขึ้น
ฟีเจอร์เด็ดจาก JamboLive ที่ช่วยให้การขายบน E-mall เป็นเรื่องง่าย
1. ระบบจัดการ Flash Sale สินค้า
หมดปัญหาสินค้าค้างสต็อกสินค้าหมดล่าช้า เพราะ JamboLive ช่วยจัดการการสร้างสินค้า Flash Sale อัพเดทสต็อกแบบเรียลไทม์ ไม่พลาดโอกาสในการขายสินค้าแม้แต่ชิ้นเดียว
2. รายงานการขายแบบละเอียด
JamboLive ให้คุณเข้าถึงรายงานการขายที่ละเอียดและครบถ้วน สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการขาย วางแผนกลยุทธ์ และปรับปรุงธุรกิจได้อย่างตรงจุด
3. การรวมการขายหลายช่องทางในที่เดียว
ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการหลายแพลตฟอร์ม JamboLive ช่วยให้ร้านค้าเชื่อมต่อและจัดการช่องทางการขายทั้งหมดในที่เดียว สะดวกและประหยัดเวลา
4. การโปรโมตสินค้าและโปรโมชั่นอัตโนมัติ
JamboLive มีเครื่องมือในการโปรโมตสินค้าหรือโปรโมชั่นของร้านค้าได้แบบอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มการมองเห็นและดึงดูดลูกค้าให้มากขึ้น
เริ่มต้นขายบนแพลตฟอร์ม E-mall ด้วย Jambolive วันนี้!
การขยายช่องทางการขายเป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาดสำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคง ด้วยฟีเจอร์เด็ดจาก JamboLive คุณสามารถจัดการและขยายธุรกิจร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองใช้ JamboLive เพื่อเพิ่มโอกาสร้านค้าบนแพลตฟอร์ม E-mall ได้แล้ววันนี้!
สนใจระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ ทักเลย!
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
ทุกคน...เคยรู้สึกผิดหวังจากการไลฟ์สดแล้วไม่มีคนเข้ามาดูไหม?
ในยุคปัจจุบันที่ใครๆก็สามารถเป็นพ่อค้าหรือแม่ค้าออนไลน์กันได้ง่ายๆ เเต่เชื่อเถอะว่าอาชีพเหล่านี้
ก็ไม่ได้ง่ายสำหรับทุกคนเช่นกัน มันไม่ใช่แค่การตั้งกล้อง ถือสินค้าเเล้วขายเท่านั้น มันยังมีปัญหา
และสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมายมาก และอีก 1 ปัญหาที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ มักเจออยู่บ่อยๆก็คือการที่ไลฟ์สดแล้วไม่มีคนเข้ามาดูนั่นเอง ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า การไลฟ์สดเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเชื่อมต่อกับลูกค้า
และโปรโมทสินค้า แต่ถ้าไม่มีผู้ชม การไลฟ์สดของคุณก็จะไม่เกิดผลเท่าที่ควร
งั้นวันนี้ JamboLive ขอนำเสนอวิธีแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้ Facebook Ads และการ Boost Live มาฝากค่ะ!
เมื่อการไลฟ์สดเป็นวิธีที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ และสามารถเพิ่มยอดขายได้ทันที แต่หลายๆ ครั้งแม่ค้าออนไลน์มักเจอปัญหาว่าไม่มีคนเข้ามาดูไลฟ์สดเลย
ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ไม่มียอดคนดูขณะกำลังไลฟ์สด เช่น:
* การแจ้งเตือนไม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
* เวลาที่เลือกไลฟ์สดไม่เหมาะสม
* การโปรโมทไลฟ์สดไม่เพียงพอ
* การแข่งขันจากคอนเทนต์อื่นๆ ในโซเชียลมีเดีย
ดังนั้น JamboLive ขอแชร์เครื่องมืออย่าง Facebook Ads และการ Boost Post ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการเข้าถึงและดึงดูดผู้ชมให้เข้ามาดูไลฟ์สดของคุณมากยิ่งขึ้น
แล้ว...เครื่องมือ Facebook Ads และ Boost Live มีประโยชน์ยังไง ?
* เพิ่มการเข้าถึง: ช่วยให้ไลฟ์สดของคุณเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น มากกว่า 10 เท่า
* ดึงดูดผู้ชมที่สนใจ: การกำหนดกลุ่มเป้าหมายทำให้โฆษณาเข้าถึงผู้ที่สนใจจริงๆ
* เพิ่มการมีส่วนร่วม: การเพิ่มการมองเห็นช่วยเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วมของผู้ชม
เมื่อเข้าใจถึงประโยชน์แล้ว เรามาดูวิธีการใช้งานเลย!
1. ใช้ Facebook Ads เพื่อโปรโมทไลฟ์สด
* กำหนดกลุ่มเป้าหมาย: เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เห็นโฆษณาไลฟ์สดของคุณ เช่น อายุ, เพศ, ความสนใจ และภูมิศาสตร์
* สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ: ทำให้โฆษณาของคุณโดดเด่นด้วยภาพหรือวิดีโอที่ดึงดูด และข้อความที่กระชับและน่าสนใจ
* ตั้งค่าแคมเปญ: เลือกประเภทแคมเปญที่เหมาะสม เช่น Engagement หรือ Video Views เพื่อเพิ่มการเข้าถึงไลฟ์สดและดึงดูดผู้ชม
2. Boost Live เพื่อเพิ่มการมองเห็น
* เลือกโพสต์ไลฟ์สด: เมื่อคุณไลฟ์สดเสร็จแล้ว ให้เลือกโพสต์ไลฟ์สดนั้นมา Boost เพื่อเพิ่มการมองเห็น
* ตั้งงบประมาณ: กำหนดงบประมาณที่ต้องการใช้ในการ Boost Live โดยสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม
* กำหนดระยะเวลา: เลือกระยะเวลาที่ต้องการ Boost Live เพื่อให้ผู้ชมมีโอกาสเห็นโพสต์ไลฟ์สดของคุณมากขึ้น
เพียงเท่านี้...การไลฟ์สดจะไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่คุณใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่าง Facebook Ads และ Boost Live มาช่วยโปรโมทไลฟ์สดของคุณ ก็สามารถเพิ่มยอดผู้ชม ยอดออเดอร์สินค้าได้มากยิ่งขึ้น!
แต่ถ้าหากใครคิดว่าขั้นตอนยุ่งยาก ไม่กล้าลงมือด้วยตัวเอง สามารถปรึกษา JamboLive ได้ฟรี!
เพราะหากสมัคร jamboLive วันนี้ สามารถใช้ ฟีเจอร์ Facebook Ads Boost Live ได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย!
สนใจระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ ทักเลย!
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://jambolive.tv/th/
โทร: 095-174-4436
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาทำคอนเทนต์สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะการทำคลิปสั้นที่ไม่ใช่แค่สามารถสร้างตัวตน แต่ยังเป็นการโปรโมทให้กับร้านค้าหรือธุรกิจของเราอีกด้วย
พ่อค้าแม่ขายอย่างเราๆ จะพลาดไม่ได้ที่จะเข้ามาในเทรนด์นี้ เพราะนอกจากจะสามารถสร้างรายได้สุดปังจากการทำคลิปสั้นได้ เมื่อเรามีกลุ่มผู้ชมที่ติดตามเราแล้วก็สามารถทำให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้นอกเหนือจากการยิงแอดโฆษณาเพื่อหาลูกค้าใหม่ๆ
วันนี้จัมโบ้เลยนำบทความดีๆ จัดทำโดย เจิ้งไค่หยาง CEO ของ JamboLive Technology LTD. มาแปล โดยเนื้อหาบางส่วนอาจได้รับการดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับบริบทของผู้อ่านภาษาไทย
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปอ่านเรื่องราวและเคล็ดลับดี ๆ ในการใช้คลิปวิดีโอสั้นเพื่อสร้างรายได้ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ๆ ในการทำธุรกิจกันเลย~
ผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นผู้กำกับวิดีโอและเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลระดับประเทศ เขาถ่ายทำทั้งในสตูดิโอและนอกสถานที่ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ล่าสุดเขาได้เผชิญกับอุปสรรคในอาชีพของเขาเมื่อเจอกับการทำคลิปวิดีโอสั้น
"คลิปวิดีโอสั้น? มันไม่น่าจะยากขนาดนั้นนี่นา" ผมถามเขา
"ฉันก็คิดแบบนั้น แต่พอฉันถ่ายทำคลิปหลายๆ คลิปและนำไปเสนอให้ลูกค้า พวกเขาบอกว่าคลิปของฉันถ่ายทำได้ดีเกินไป ขอให้ถ่ายทำให้ดูธรรมดามากกว่านี้" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ท้อแท้
"ถ่ายดีแล้วทำไมถึงถูกว่า?" ผมแปลกใจมาก
"พวกเขาบอกว่าคลิปวิดีโอสั้นที่ได้รับความนิยมในตอนนี้ต้องดูเหมือนไม่ได้ถ่ายทำโดยมืออาชีพ กล้องต้องสั่นหน่อย ๆ ดูไม่เรียบร้อยเกินไป" เพื่อนของผมถอนหายใจ
วันต่อมา เพื่อนของผมมอบหมายให้น้องใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์เป็นผู้รับผิดชอบงานนี้ น้องใหม่ถามว่า "ฉันควรจะไปเรียนคอร์สอะไรเพิ่มเติมไหม?"
"ห้ามเลย!" เพื่อนของผมตอบทันที "แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันตัดต่อพื้นฐานและใช้มือถือถ่ายก็พอ ถ่ายให้ดูไม่มืออาชีพมากที่สุดยิ่งดี"
จากบทสนทนาของคุณเจิ้งและเพื่อนผู้กำกับของเขา ทำให้เขาเข้าใจถึง 3 เคล็ดลับการทำคลิปสั้นที่จะถูกใจคนดู
1. ทำให้คลิปดูธรรมชาติ
ความรู้สึกธรรมชาติหมายถึงการทำให้คลิปวิดีโอสั้นดูเหมือนกับการถ่ายทำเองในชีวิตประจำวัน ถ้าคลิปดูเหมือนเป็นการขายของที่มีการจัดฉากมากเกินไป ผู้ชมจะไม่สนใจ ดังนั้นคลิปวิดีโอสั้นที่ดีควรดูธรรมชาติ เหมือนกับถ่ายเอง ไม่ต้องมีการตัดต่อหรือถ่ายทำที่มีคุณภาพสูงจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่า
2. เกริ่นด้วยหัวข้อที่น่าสนใจ
แม้ว่าคลิปวิดีโอสั้นจะมีคุณภาพความชัดเจนต่ำกว่าวิดีโอที่ถ่ายทำโดยมือโปร แต่หัวข้อของคลิปต้องดึงดูดความสนใจ หัวข้อควรมีความตรงไปตรงมา มีอารมณ์ร่วม และชัดเจน ตัวอย่างเช่น:
- "ถ้าไม่รู้ 3 อย่างนี้ การทำคอนเทนต์ของคุณก็สูญเปล่า" ใช้การทำให้จะรู้สึกพลาดอะไรถ้านึกไม่ฟังต่อเพื่อดึงดูดความสนใจ
- "คนที่รู้สึกเหนื่อยกับชีวิต ลองนึกถึง 3 เหตุผลนี้ในการใช้ชีวิตต่อ" ใช้การเล่นกับความรู้สึกและวิธีการแก้ปัญหา
3. การวิเคราะห์ผลและปรับปรุงคอนเทนต์
ไม่ว่าจะเป็นการทำวิดีโอสั้นหรือการไลฟ์ เราควรที่จะมีการดูผลวิเคราะห์ข้อมูลหลังจากการโพสต์เพื่อวัดผลตอบรับของผู้ชมกับคอนเทนต์นั้นๆ ซึ่งมักจะมีสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ ทั้งหมดนี้มีผลต่อการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงคอนเทนต์ในครั้งถัดๆ ไปเพื่อค้นหาแนวและจุดขาของตนเองเพื่อการทำคลิปสั้นที่จะดึงดูดผู้ชมให้มาติดตามและเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้จากการเปลี่ยนผู้ชมให้เป็นลูกค้าของเรา
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 3 เคล็ดลับรู้ไว้ดีกว่า ในการสร้างรายได้จากการทำคลิปวิดีโอสั้น หวังว่าผู้อ่านทุกท่าจะสามารถไปปรับใช้ในการทำคอนเทนต์สร้างรายได้และหาลูกค้าใหม่ๆให้กับธุรกิจร้านค้าออนไลน์นะคะ
ส่วนใครที่สนใจที่จะ เปิดใช้งานยิงแอดไลฟ์สด ควบคู่ไปกับการคอนเทนต์ก็สามารถติดต่อ ระบบดูดออเดอร์ และจัดการร้านค้าออนไลน์ JamboLive Thailand ได้เลยค่ะ ^__^
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
**บทความต้นฉบับจัดทำโดย เจิ้งไค่หยาง CEO ของ JamboLive Technology LTD. โดยเนื้อหาบางส่วนอาจได้รับการดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับบริบทของผู้อ่านภาษาไทย**
JamboLive ได้รับเลือกจาก DBD กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ร่วมงาน The Influencer Journey #TiJ1 หลักสูตร “ปั้นผู้ประกอบการให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์” ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างตัวตนให้โดดเด่นและสำเร็จในเส้นทางคนดัง ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับบริษัท จัมโบไลฟ์ เทคโนโลยี จำกัด ที่ได้เข้าร่วมงานซึ่งจัดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ อีกครั้ง หลังจากที่เคยเข้าร่วมงาน Online Marketing Genius #4 ซึ่งจัดขึ้นใน 4 ภาค ได้แก่ ภูเก็ต เชียงราย นครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร โดย JamboLive ได้เข้าร่วมงานทั้ง 4 ภาค มุ่งเน้นการให้ความรู้และแนะนำระบบปฏิบัติการที่สามารถแบ่งเบาและทำให้การขายของออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากงานที่ผ่านมา
ในครั้งนี้งานถูกจัดขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 โดยมีอินฟลูเอนเซอร์และผู้ประกอบการชื่อดังมาร่วมงานมากมาย JamboLive ได้รับเกียรติจาก DBD ให้ร่วมจัดบูธในงานนี้ โดยเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ระบบดูดออเดอร์และการจัดการร้านค้าออนไลน์ แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างตัวตนให้โดดเด่นและประสบความสำเร็จในเส้นทางคนดัง โดยการร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (DBD) และ JamboLive ในครั้งนี้ เป็นการขยายการเข้าถึงกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจโดยใช้ระบบปฏิบัติการที่เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการขายออนไลน์ให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น
JamboLive เป็นระบบปฏิบัติการที่ดูแลร้านค้าออนไลน์ตั้งแต่ต้นทางจนปลายทางการขาย ตั้งแต่การดูดออเดอร์จากรหัสสินค้าที่ถูก CF จนถึงการจัดส่งผ่านขนส่งเจ้าดังในเรทราคาพิเศษ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์หลากหลายที่ช่วยทำให้การขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านไลฟ์สด โพสต์ หรือแชท เป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยฟีเจอร์ที่ทันสมัยและคหลากหลาย ทำให้ JamboLive กลายเป็นเครื่องมือที่ไม่เพียงแค่ช่วยให้การจัดการร้านค้าออนไลน์เป็นเรื่องง่าย แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาธุรกิจของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ JamboLive :
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
JamboLive ระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ที่ครบวงจร ได้รับเกียรติในการจับมือเป็นพันธมิตรกับ TPNG Shop ผู้จัดการประกวด Miss Universe Thailand 2024 ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการเน้นย้ำถึงความสำเร็จในการขายสินค้าของที่ระลึก ซึ่งจัดทำโดย TPNG Shop ผ่านการไลฟ์สดและโพสต์ต่างๆ ในการทำกิจกรรมและภารกิจของเหล่านางงามที่เข้าร่วมประกวด Miss Universe Thailand สุดยิ่งใหญ่แห่งปี 2024 ระบบ JamboLive ได้เข้ามาช่วยให้การสั่งซื้อสินค้าของแฟนๆ นางงามที่ต้องการสนับสนุนผู้เข้าประกวดเป็นไปอย่างราบรื่น และสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานตลอดการขายผ่านช่องทาง Facebook
TPNG Shop ซึ่งเป็นผู้จัดการประกวด Miss Universe Thailand ได้นำ JamboLive มาใช้เป็นระบบหลักในการจัดการออเดอร์และการขายสินค้าสุดพิเศษสำหรับงานนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขายชุดเซ็ทน้ำพริกเจ๊แอน หรือแก้วเย็นพร้อมลายเซ็นนางงาม ผ่านการไลฟ์สดและโพสต์ในเพจ การเก็บออเดอร์คำสั่งซื้อสินค้าผ่านการพิมพ์รหัสสินค้าก็เป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ตัวอย่างโพสต์ของ TPNG Shop:
แก้วเย็นพร้อมลายเซ็นจักรวาล! เวลามีจำกัดรีบสั่งซื้อก่อนหมดโอกาส🪐
วิธีซื้อแก้วพร้อมลายเซ็นนางงามที่คุณชอบ:
👑✨ เพียงแค่พิมพ์MUTเลขประจำตัว รหัสสินค้า=จำนวน ex.MUT00DW=1
DW แก้ว MUT สีขาว พร้อมลายเซ็น
DB แก้ว MUT สีดำ พร้อมลายเซ็น
จะเห็นได้ว่าการสั่งซื้อเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้นเพียงพิมพ์ตามรหัสที่ตั้งไว้เพื่อให้ลูกค้าพิมพ์เพื่อ CF สินค้า
JamboLive มีฟีเจอร์หลากหลายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรหัสสินค้าอย่างง่ายดาย ทำให้ลูกค้าสามารถทำการสั่งซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดายเพื่อปิดการขายได้รวดเร็วขึ้น ดูดออเดอร์ไม่ตกหล่น ช่วยให้ทุกออเดอร์ได้รับการจัดเก็บเข้าระบบและเปิดบิลสรุปยอดอัตโนมัติผ่านแชทลูกค้าเพื่อให้ทำการเช็คเอาท์สินค้าเพื่อชำระเงินได้อย่างราบรื่น แถมยังมีการตัดสต๊อกอัตโนมัติในตอนขาย ช่วยลดปัญหาสินค้าหมดสต๊อกหรือการขายเกินจำนวน รวมถึงเครื่องมือวิเคราะห์ยอดขายที่สามารถมอนิเตอร์ยอดขายได้แบบเรียลไทม์ และมีฟีเจอร์กระตุ้นยอดขายมากกว่า 100+ รายการ เพื่อจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ
นอกจากการจัดการออเดอร์แล้ว JamboLive ยังสามารถรับการชำระเงินได้หลายรูปแบบ เนื่องจาก JamboLive เป็นพาร์ทเนอร์กับ Beam แพลตฟอร์มรับชำระเงินสำหรับทุกธุรกิจ เพื่อมอบประสบการณ์ชำระเงินที่ง่ายและปลอดภัย
JamboLive ยังเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายใหญ่ ได้แก่ Kerry, Flash, J&T, และไปรษณีย์ไทย เพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าถึงมือแฟนๆ ของการประกวด Miss Universe Thailand ได้ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไร แฟนๆ ก็สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าของตนอย่างรวดเร็วและปลอดภัยแน่นอน
การร่วมมือกันระหว่าง JamboLive และ TPNG Shop ผู้จัดการประกวด Miss Universe Thailand เป็นการร่วมมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการและการขายสินค้าให้กับแฟนๆ ของการประกวด ทุกขั้นตอนตั้งแต่การสั่งซื้อจนถึงการรับสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย ด้วยฟีเจอร์เด่นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการออเดอร์และการจัดการหลังบ้าน ทำให้แฟนๆ สามารถเพลิดเพลินกับการช้อปของสัมมนาคุณของ อีเวนท์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี Miss Universe Thailand 2024
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ JamboLive :
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
JamboLive ขยายแพลตฟอร์มสู่ประเทศไทย จับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับ Beam แพลตฟอร์มรับชำระเงินสำหรับทุกธุรกิจ เพื่อประสบการณ์ชำระเงินที่ง่ายและปลอดภัย
JamboLive ระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ที่ครบวงจร ได้ขยายแพลตฟอร์มสู่ประเทศไทย พร้อมประกาศเป็นพันธมิตรกับ Beam แพลตฟอร์มรับชำระเงินสำหรับทุกธุรกิจ ด้วยการร่วมมือกันนี้ JamboLive และ Beam จะส่งมอบประสบการณ์ชำระเงินที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยบนโซเชียลคอมเมิร์ซ Live เว็บไซต์และหน้าร้านเพื่อให้ธุรกิจเติบโตแบบไม่สะดุด
ปี 2023 ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับ JamboLive โดยขึ้นนำเป็นแพลตฟอร์ม E-commerce อันดับ 1 ในไต้หวันและมาเลเซีย ด้วยยอด GMV ทะลุรวมเกิน 80,000 ล้านบาท สร้างรายได้จากการ Live กว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี และในปี 2024 JamboLive ตั้งเป้าที่จะขยายความสำเร็จนี้สู่ตลาดไทย
การจับมือร่วมกับ Beam ในครั้งนี้จะช่วยสร้างและยกระดับประสบการณ์ในการซื้อและชำระเงินของลูกค้า Customer Journey ที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การจัดเก็บออเดอร์ไปจนถึงการชำระเงินที่ง่ายและครบทุกวิธีชำระเงินยอดนิยม ตั้งแต่บัตรในประเทศและต่างประเทศ เช่น Visa, Mastercard, AMEX รวมถึงการผ่อนชำระ, QR พร้อมเพย์, E-Wallet และอีกมากมาย ผู้ใช้ JamboLive สามารถมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนการทำธุรกรรมจะเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ โพสต์ หรือลงขายในรูปแบบวิดีโอ Reels บนแพลตฟอร์ม Facebook, Instagram, TikTok, Messenger, หรือ Line
นอกจากนี้ JamboLive ยังมอบข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าที่ใช้บริการ JamboLive พร้อมสมัครใช้งาน Beam โดยฟรีค่าธรรมเนียมทุกธุรกรรมผ่าน Beam สำหรับยอด 50,000 บาทแรก และโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับผู้ที่สมัครแพ็กเกจต่าง ๆ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี้เท่านั้น ได้แก่:
Bundle #1: Jambo Wallet
เมื่อมียอดเติมเงินแพ็กเกจ Jambo Wallet ครบ 20,000 บาท
คุ้มที่ 1: รับฟรี เครดิตตัดบิล 2,000 เครดิต มูลค่า 2,000 บาท
คุ้มที่ 2: ฟรีค่าธรรมเนียมทุกธุรกรรม 50,000 บาทแรก ผ่าน Beam
คุ้มที่ 3: ฟรี ปลดล็อค Boost Facebook Ads Live ยิงแอดขณะไลฟ์สด (เงื่อนไขการปลดล็อคเป็นไปตามข้อกำหนดของ Meta)
Bundle #2: Jambo Corp
เมื่อสมัครแพ็กเกจ Jambo Corp รายปี 79,900 บาท
คุ้มที่ 1: รับสิทธิ์ตรวจสลิปฟรีถึง 10,000 สลิป
คุ้มที่ 2: ฟรีค่าธรรมเนียมทุกธุรกรรม 50,000 บาทแรก ผ่าน Beam
คุ้มที่ 3: ปลดล็อค Boost Facebook Ads Live ยิงแอดขณะไลฟ์สด (เงื่อนไขการปลดล็อคเป็นไปตามข้อกำหนดของ Meta)
Bundle #3: Jambo Pro
เมื่อสมัครแพ็กเกจ Jambo Pro รายปี 49,900 บาท
คุ้มที่ 1: รับสิทธิ์ตรวจสลิปฟรีถึง 5,000 สลิป
คุ้มที่ 2: ฟรีค่าธรรมเนียมทุกธุรกรรม 50,000 บาทแรก ผ่าน Beam
คุ้มที่ 3: ปลดล็อค Boost Facebook Ads Live ยิงแอดขณะไลฟ์สด (เงื่อนไขการปลดล็อคเป็นไปตามข้อกำหนดของ Meta)
Bundle #4: Jambo Plus
เมื่อสมัคร Jambo Plus รายปี 25,900 บาท
คุ้มที่ 1: รับสิทธิ์ตรวจสลิปฟรีถึง 2,000 สลิป
คุ้มที่ 2: ฟรีค่าธรรมเนียมทุกธุรกรรม 50,000 บาทแรก ผ่าน Beam
คุ้มที่ 3: ปลดล็อค Boost Facebook Ads Live ยิงแอดขณะไลฟ์สด (เงื่อนไขการปลดล็อคเป็นไปตามข้อกำหนดของ Meta)
สมัครใช้วันนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษอีกมากมายจาก JamboLive และ Beam เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขายสินค้าผ่าน Live พร้อมรับชำระเงินได้อย่างลื่นไหล ปลอดภัยในแพลตฟอร์มเดียว
เรียนรู้เกี่ยวกับ Beam เพิ่มเติมได้ที่ https://beamcheckout.com
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ JamboLive :
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
ทุกวันนี้การไลฟ์ขายสินค้าอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ เพราะมีคู่แข่งเยอะขึ้นทำการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆต้องแข่งขันแย่งกับร้านค้าเจ้าอื่นๆ ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าอย่างเราๆต้องรู้จักการโปรโมตร้านค้าให้เป็นที่รู้จัก นอกจากการทำคอนเทนต์ออแกนิค เช่น ทำคอนเทนต์เพื่อดึงลูกค้าให้สนใจแล้วยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้มากซึ่งนั่นก็คือ การยิงแอดไลฟ์สด แต่ปกติแล้วการยิงแอดไลฟ์สดจะเป็นการยิงแอดที่ไลฟ์จบไปแล้ว แต่...ถ้าอยากยิงแอดขณะไลฟ์อยู่ล่ะ? คำตอบคือการใช้ Boost Live หรือโปรโมตไลฟ์สดขณะกำลังไลฟ์อยู่นั่นเอง วันนี้จัมโบ้มาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับยิงแอดไลฟ์สดกันค่ะ! สนใจบริการปลดล็อค Boost Live Facebook สามารถติดต่อ JamboLive Thailand ที่ช่องทางติดต่อด้านล่างได้เลย
ทำไมการยิงแอดไลฟ์สดถึงสำคัญ?
การยิงแอดไลฟ์สด ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มยอดผู้ชมในขณะไลฟ์ แต่ยังช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆที่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าในขณะที่ลูกค้ากำลังดูไลฟ์อยู่ การเห็นสินค้าแบบเรียลไทม์ และการตอบคำถามในทันทีช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น
Boost Live คืออะไร?
Boost Live คือการโปรโมตไลฟ์สดที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ ให้ขึ้นบนฟีดหรือได้รับการมองเห็นจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น การยิงแอดไลฟ์สดนี้ทำให้คนที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าเห็นไลฟ์ของเรามากขึ้นในขณะกำลังขาย ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆได้มากขึ้น
ข้อดีของการโปรโมตไลฟ์สด
เพิ่มจำนวนผู้ชม การโปรโมตไลฟ์สดช่วยเพิ่มจำนวนผู้ชมให้มากขึ้น ทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้
เพิ่มโอกาสในการขาย ผู้ชมที่เข้ามาดูไลฟ์ขณะกำลังถ่ายทอดสดทำให้มีโอกาสซื้อสินค้ามากขึ้น เพราะสามารถเห็นสินค้าและถามคำถามเกี่ยวกับสินค้าได้แบบเรียลไทม์ในขณะผู้ขายกำลังไลฟ์
สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การตอบคำถามและการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าขณะไลฟ์สดช่วยสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ดี
เพิ่มการรับรู้แบรนด์ การที่ผู้คนเห็นไลฟ์ของเราบ่อยๆ จะช่วยเพิ่มการรับรู้และจดจำแบรนด์ของเราได้ดีขึ้น
วิธีการ Boost Live
1. ตรวจสอบความพร้อม ตรวจสอบว่าปุ่ม “Boost Live” หรือ "โปรโมทโพสต์" สามารถกดโปรโมตไลฟ์ได้
2. ตั้งค่าเป้าหมาย กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึง เช่น อายุ เพศ ความสนใจ เป็นต้น
3. กำหนดงบประมาณ ตั้งงบประมาณที่ต้องการใช้ในการโปรโมตไลฟ์สด
4. เลือกเวลาโปรโมต เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการโปรโมต เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากที่สุด
5. ตรวจสอบผลลัพธ์ หลังจากที่โปรโมตไลฟ์เสร็จแล้ว ให้ตรวจสอบผลลัพธ์และวิเคราะห์ว่าการโปรโมตได้ผลดีแค่ไหนเพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงในการโปรโมตครั้งถัดๆไป
การปลดล็อค Boost Live
สำหรับเงื่อนไขการปลดล็อค Boost Live สามารถติดต่อสอบถามพวกเรา JamboLive Thailand ที่เป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอย่างเป็นทางการกับ Meta จัมโบ้ไลฟ์พร้อมซัพพอร์ตและให้คำแนะนำลูกค้าของเรา ในการตั้งค่าและการใช้ Boost Live เพื่อโปรโมตไลฟ์สดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การยิงแอดไลฟ์สดหรือการ Boost Live เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มจำนวนผู้ชมและการมองเห็นของไลฟ์สด ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ ถ้าหากคุณพ่อค้าแม่ขายต้องการให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตและมีผู้ชมมากขึ้น การใช้ Boost Live จึงเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเพื่อดันให้ธุรกิจไลฟ์สดขายของเติบโต
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ติดต่อ:
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
การยิงแอดใน Facebook กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมตสินค้า สร้างการรับรู้แบรนด์ หรือกระตุ้นยอดขาย วิธีการยิงแอดแบบทักข้อความ มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน สามารถเพิ่มยอดขายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
CTM คืออะไร
CTM หรือ Click to Message คือรูปแบบการโฆษณาบน Facebook และ Instagram ที่มุ่งเน้นให้ผู้ชมสามารถคลิกปุ่มที่โฆษณา เพื่อส่งข้อความหาร้านค้าผ่าน Messenger ได้แบบทันที การใช้งานรูปแบบนี้ช่วยให้ร้านค้าสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง เพื่อสอบถามข้อมูลหรือพูดคุยกับผู้ขาย
ข้อดีของการยิงแอดแบบ CTM
1. สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า:
การที่ลูกค้าสามารถส่งข้อความมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในใกล้ชิดกับลูกค้า ได้มากกว่าการซื้อขายในแบบที่ลูกค้ากดเข้าไปเพื่อซื้อสินค้าแบบไม่มีการติดต่อหรือพูดคุยกัน
2. เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย:
การที่ลูกค้ากดปุ่มทักแชทมา แปลว่าลูกค้าสนใจที่จะซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ ของร้านค้าไปมากกว่าครึ่งแล้ว การตอบคำถามหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ลูกค้าอย่างรวดเร็วสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ง่ายขึ้นอย่างมาก
3. รวดเร็วและสะดวกสบาย:
ลูกค้าสามารถติดต่อร้านค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาหาช่องทางติดต่ออื่นๆ ทำให้กระบวนการซื้อขายรวดเร็วขึ้น เพราะลูกค้าสามารถกดปุ่มส่งข้อความบนโฆษณาและติดต่อกับทางผู้ขายได้เลย
เหมาะสำหรับร้านค้าแบบไหน
4. ร้านค้าที่ต้องการให้ข้อมูลหรือคำปรึกษาเพิ่มเติม:
หากสินค้าหรือบริการมีรายละเอียดที่ค่อนข้างเยอะและต้องมีการอธิบายเพิ่มเติม การใช้ CTM จะช่วยให้ลูกค้าสามารถสอบถามและได้รับรายละเอียดข้อมูลได้อย่างทันที
5. ร้านค้าที่ต้องการเน้นการให้บริการลูกค้า:
สำหรับร้านค้าที่เน้นการให้บริการลูกค้าอย่างใกล้ชิดและรวดเร็ว การยิงแอดแบบ CTM จะช่วยทำให้ลูกค้าได้รับการบริการโดยตรงจากแอดมิน
6. ร้านค้าที่ต้องการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ:
ร้านค้าที่ต้องการเพิ่มจำนวนผู้ที่ติดต่อมาสอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อสินค้า CTM เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจาก CTM จะกระตุ้นให้ลูกค้ากดคลิกและส่งข้อความมาหาร้านค้า เพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้นไปอีก
วิธียิงโฆษณา CTM ทำให้ยอดขายปัง
1.สร้างข้อความโฆษณาที่น่าสนใจ:
เราควรกำหนดสิ่งที่ต้องการจะสื่ออย่างชัดเจน เพื่อทำให้เข้าใจง่ายและดึงดูดให้ผู้คนที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคลิกเพื่อส่งข้อความมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม นอกจากนั้นยังสามารถใช้ภาพหรือวิดีโอที่สวยงามและเหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของเราเพื่อให้ดูน่าสนใจอีกด้วย
2. การใช้ Call-to-Action (CTA):
เขียนข้อความ CTA ที่ชัดเจนและน่าสนใจ เช่น "ส่งข้อความเพื่อรับส่วนลดพิเศษ!" หรือ "สมัครทดลองใช้ฟรี" ทำให้กระตุ้นพฤติกรรมลูกค้าให้ทำตามข้อความ CTA
3. ตอบข้อความกลับอย่างรวดเร็ว
เราควรตอบกลับข้อความจากลูกค้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้ลูกค้ารอนานและเกิดความไม่พอใจ โดยเราสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อทำให้การตอบกลับข้อความลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Chat&Shop ระบบรวมทุกแชทไว้หน้าต่างเดียว ในระบบ JamboLive ไม่ต้องมานั่งสลับแชทให้เหนื่อย นอกจากนั้นยังสามารถตั้งค่า Auto-Reply ใน Messenger เพื่อตอบกลับลูกค้าในทันทีเมื่อลูกค้าส่งข้อความมา โดยในตัวข้อความควรแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าเราได้รับข้อความแล้วและกำลังดำเนินการตอบกลับโดยเร็วที่สุด
4. เสนอโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษ (สำหรับโฆษณาจัดโปรโมชั่น):
การสร้างระยะเวลาที่จำกัดสำหรับการซื้อ เช่น เสนอส่วนลด หรือข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าที่ติดต่อมาผ่าน CTM ภายในเทศกาลนั้นๆ เพิ่มโอกาสทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายต้องการคลิกปุ่มส่งข้อความมากขึ้น
5. ใช้การวิเคราะห์และปรับปรุงแคมเปญ:
การใช้ Facebook Ads Manager เพื่อติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญ CTM เช่น จำนวนคลิก, การส่งข้อความ, ยอดขาย และอื่นๆ ทำให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าและตรวจสอบว่าโฆษณาแบบไหนที่ได้ผลดีและอะไรที่ต้องปรับปรุงเพื่อแคมเปญในครั้งถัดๆไป
6. การฝึกอบรมทีมงาน:
ในกรณีที่ร้านค้ามีทีมงานแอดมินที่คอยตอบแชทลูกค้า การฝึกอบรมทีมงานของเราให้มีทักษะในการตอบคำถาม และปิดการขายผ่านการส่งข้อความที่เข้ากับกลุ่มลูกค้าของเรา เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะถ้าลูกค้ามีการทักข้อความเข้ามาแต่ขาดการตอบกลับที่มีประสิทธิภาพ อาจจะทำให้เราสูญเสียลูกค้าที่เราได้รับเข้ามาผ่านทางการยิงโฆษณาได้
จัมโบ้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับพ่อค้าแม่ขายที่กำลังศึกษาการยิงแอดบน Facebook กันนะคะ JamboLive มีบริการ ปลดล็อค Boost Live ยิงแอดขณะไลฟ์สด สนใจทักมาที่เพจได้เลยค่ะ
ฟีเจอร์แนะนำ
- Chat&Shop ระบบรวมแชทไว้ในหน้าเดียว
- ปลดล็อค Boost Live ยิงแอดขณะไลฟ์สด
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ติดต่อ:
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
ในครึ่งปีหลังของปี 2024 การขายของออนไลน์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในด้านการตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค สำหรับแม่ค้าและพ่อค้าออนไลน์ การติดตามเทรนด์เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถปรับตัวและนำเสนอสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้จัมโบ้เลยขอมาแชร์เทรนด์สำคัญที่ควรจับตามองในครึ่งปีหลังของปีนี้กันค่ะ~
1. การใช้ AI และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล
การนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมลูกค้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้น เทคโนโลยี AI สามารถช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มการขาย แนะนำสินค้า และปรับปรุงประสบการณ์การขายจากการใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ ในระบบ JamboLive ฟีเจอร์ Jambo Dashboard เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลได้ครบถ้วน เช่น สินค้าขายดี พฤติกรรมผู้ซื้อ อัตราการชำระเงิน จำนวนยอดCF จำนวนยอดชำระแบบเรียลไทม์ และข้อมูลเชิงลึกอื่นๆอีกมากที่จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถปรับกลยุทธ์การขายได้ตรงจุดมากขึ้น
2. การปรับตัวกับเทรนด์สินค้ารักษ์โลก
ผู้บริโภคมีความสนใจในเรื่องรักษ์โลกและการปกป้องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การนำเสนอสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ และการโปรโมทความโปร่งใสในการผลิตสินค้าเป็นปัจจัยที่สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ได้ การสื่อสารเรื่องเหล่านี้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์อีกด้วย
3. จัดโปรเจาะกลุ่มเป้าหมาย
ในยุคที่การแข่งขันสูง การให้บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความแตกต่าง การส่งข้อเสนอพิเศษตามพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีและเพิ่มความพึงพอใจได้มากยิ่งขึ้นทำให้มัดใจขาจรให้เป็นขาประจำ ดึงใจลูกค้าให้อยู่หมัด
4. การเน้นการขายผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
การขายของออนไลน์ไม่ควรจำกัดอยู่แค่แพลตฟอร์มเดียว การขยายการขายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่และเพิ่มยอดขาย อย่างเช่นถ้าเราขายอยู่บน Facebook เราสามารถขายผ่าน Instagram, Line, TikTok ด้วยเพื่อขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้า นอกจากนี้ การใช้ระบบการจัดการสินค้าและคำสั่งซื้อที่สามารถเชื่อมสต๊อกเดียวสำหรับขายบนหลายแพลตฟอร์มอย่างเช่น ระบบดูดออเดอร์&ได้จะช่วยให้การบริหารงานง่ายขึ้น
5. การใช้วิดีโอสั้นในการตลาด
ในปี 2024 วิดีโอสั้นยังคงเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Instagram Reels Facebook Reels การสร้างคอนเทนต์ที่สั้น กระชับ และดึงดูดความสนใจของลูกค้าจะช่วยให้สินค้าและบริการของคุณถูกนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองใช้วิดีโอสั้นเพื่อโชว์สินค้า การใช้งานจริง หรือการรีวิวจากลูกค้า
6. การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์เฉพาะกลุ่ม (Micro-Influencers)
ในครึ่งปีหลัง 2024 การใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการทำการตลาดยังจะคงเป็นที่นิยม แต่มีแนวโน้มที่จะมีการใช้ micro-influencers หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามไม่มากแต่มีความเฉพาะเจาะจงในกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพราะมีความน่าเชื่อถือและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีมากกว่า อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามมากแต่อาจจะมีกลุ่มเป้าหมายที่กว้างเกินไป
สรุป
การติดตามและปรับตัวตามเทรนด์เหล่านี้จะช่วยให้แม่ค้าและพ่อค้าออนไลน์สามารถแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัมโบ้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับพ่อค้าแม่ค้าในครึ่งปีหลังของปี 2024 ให้ปังๆกันถ้วนหน้านะคะ^^
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ติดต่อ:
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
ทุกวันนี้การขายของผ่านการไลฟ์สดบน Facebook กลายเป็นที่นิยมอย่างมากเนื่องจากการไลฟ์สดเป็นการขายที่สามารถตอบโต้ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ขายและผู้ซื้อมีปฏิสัมพันธ์มากกว่าการขายแบบโพสต์เพียงอย่างเดียว สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่ต้องการเพิ่มยอดขายด้วยการไลฟ์ที่เข้ามาอ่านบทความนี้ จัมโบ้มาแชร์เคล็ดลับที่จะช่วยทำให้การไลฟ์สดขายไม่สะดุด ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านกันต่อได้เลย!
ไลฟ์สดบน Facebook คืออะไร ?
Facebook Live คือระบบวิดีโอถ่ายทอดสดบน Facebook ที่สามารถใช้แชร์เรื่องราวต่าง ๆ ไปให้คนที่ติดตามบน Facebook เพื่อสร้างการเข้าถึงมายังเพจหรือหน้าโปรไฟล์ได้ นอกจากนี้ Facebook Live เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมในขณะที่กำลังไลฟ์ได้แบบเรียลไทม์ผ่านการคอมเมนต์ ดังนั้นจึงเป็นช่องทางที่ถูกนำมาใช้ในการขายของออนไลน์สุดฮิตในปัจจุบัน แต่จะไลฟ์ขายของทั้งทีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกไปแบบเรียลไทม์ดังนั้นการเตรียมตัวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการขายไลฟ์สดเป็นอย่างมาก
7 เทคนิคเตรียมตัวก่อนไลฟ์สด
1. เตรียมสคริปต์และคิวขายสินค้าให้พร้อม
การมีสคริปต์และจัดคิวการขายสินค้าจะช่วยทำให้การไลฟ์สดดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการวางแผนลำดับการขายสินค้าล่วงหน้า เพื่อให้การไลฟ์สดไหลลื่นและไม่หลุดประเด็น การมีสคริปต์จะช่วยทำให้ไม่ลืมรายละเอียดสำคัญและตอบคำถามลูกค้าได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังทำให้ดูมีความพร้อมและเป็นมืออาชีพในการนำเสนอสินค้าแบบไม่มีสะดุด
2. ตั้งชื่อไลฟ์ให้น่าสนใจ
การตั้งชื่อไลฟ์สดที่น่าสนใจสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้อย่างมาก ควรเน้นเกี่ยวกับ กิจกรรมหรือโปรโมชั่นพิเศษ หรืออะไรที่ลูกค้าเห็นและอยากกดเข้าไปชม เช่น การเปิดตัวสินค้าใหม่ โปรโมชั่นพิเศษสำหรับหน้าร้อน หรือ ลดแลกแจกแถมทั้งร้าน
3. ระบุรายละเอียดสินค้าและรหัสสินค้าให้ชัดเจน
การระบุรายละเอียดสินค้าและรหัสสินค้าอย่างชัดเจนทำให้ลูกค้า CF สินค้าได้ง่ายคือการเพิ่มโอกาสทำให้มียอดขายที่มากขึ้น ดังนั้นการขายแบบไลฟ์สดควรระบุรายละเอียดสินค้าและรหัสสินค้าเพื่อทำให้ลดความยุ่งยากให้การพิมพ์คำสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าที่เข้ามา CF ในไลฟ์สด
4. แสดงสินค้าให้ดูน่าสนใจและน่าซื้อ
การโชว์สินค้าที่เป็นไฮไลท์ของร้านด้วยการจัดวางสินค้าที่โดดเด่นและตกแต่งด้วยพร้อบสวยๆ, จัดไฟให้ดูสบายตาเป็นสิ่งสำคัญที่จะดึงดูดความสนใจของลูกค้ามาที่สินค้าที่เราขายทำให้เพิ่มโอกาสการหยุดดูและตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้า
5. การจัดกิจกรรมและเล่นเกมส์ในไลฟ์สด
การจัดกิจกรรมและเล่นเกมส์ในไลฟ์สด เป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดความสนใจความลูกค้าและเพิ่มยอดขาย ตัวอย่างเช่น การแชร์ไลฟ์สดเพื่อรับการจัดส่งสินค้าฟรี, กดไลก์ไลฟ์เพื่อลุ้นรับของรางวัลพิเศษ, หรือสุ่มจับรางวัลผู้โชคดี จากยอดคำสั่งซื้อ นอกจากนี้ยังสามารถเสนอส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ หรือโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ในช่วงเวลาที่กำหนด การทำกิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มการมองเห็นและการมีส่วนร่วมของลูกค้า แต่ยังสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าและกลับมาซื้อซ้ำในอนาคตอีกด้วย
6. เทรนทีมงานและแอดมินที่ดูแลจัดการหลังบ้านให้พร้อม
ข้อนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนอาจจะเผลอมองข้ามเพราะคิดว่าไม่สำคัญ แต่ตามจริงแล้วการเทรนทีมงานและแอดมินให้พร้อมในการจัดการหลังบ้านนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเทรนเพื่อเรียนรู้การใช้ระบบจัดการหลังบ้าน, ขั้นตอนการดำเนินการจัดการออเดอร์ ตั้งแต่รับคำสั่งซื้อ ถึงพิมพ์ใบปะหน้าแพ็กสินค้าส่ง เพื่อที่จะทำให้การจัดการหลังบ้านเป็นตามขั้นตอนและเป็นระบบระเบียบไม่ทำให้งงและสับสน
7. เตรียมระบบดูดออเดอร์ & ระบบจัดการหลังบ้านให้พร้อม
เป็นขั้นตอนสำคัญในการเตรียมตัวสำหรับการขายไลฟ์สด ระบบดูดออเดอร์ที่เลือกควรมีประสิทธิภาพ พร้อมแอดมิน ทีมงานที่พร้อมซัพพอร์ตสอนใช้ระบบแบบจับมือทำ ระบบหลังบ้านควรจัดการได้อย่างครบครัน ตั้งแต่ จัดการออเดอร์ จัดการสต็อกสินค้าให้เป็นระบบ มีช่องทางชำระเงินที่ปลอดภัยและหลากหลาย รวมถึงระบบติดตามและแจ้งเตือนสถานะออเดอร์หลังจากส่งพัสดุไปแล้ว นอกจากนี้ ควรมีการจัดการข้อมูลลูกค้าและอัปเดตระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นตั้งแต่การ CF จนสินค้าถึงมือลูกค้า
จัมโบ้หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นไลฟ์สดขายของได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ถ้าทำตามเทคนิคที่แนะนำการไลฟ์สดจะมีคนดูเยอะและมียอดขายพุ่งทะลุเป้าอย่างแน่นอนจ้า
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ติดต่อ:
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
**บทความต้นฉบับจัดทำโดย เจิ้งไค่หยาง CEO ของ JamboLive Technology LTD. โดยเนื้อหาบางส่วนอาจได้รับการดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับบริบทของผู้อ่านภาษาไทย
ในโลกของการขายผ่านการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ มันไม่ใช่แค่การเปิดกล้องแล้วพูดคุยเพื่อขายสินค้าเท่านั้นนะ แต่ยังมีเครือข่ายซัพพลายเชนที่ซับซ้อนอยู่ ซึ่งเราต้องคำนึงถึงเวลาและต้นทุนการดำเนินงานอย่างพิถีพิถันอีกด้วย ในทีมของการถ่ายทอดสด บทบาทที่สำคัญมากๆ คือ "ทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้า" แต่หน้าที่ของพวกเขาคืออะไรและวิธีการเลือกสินค้าควรที่จะเลือกจากอะไร มาอ่านต่อกันในบทความนี้ได้เลย
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมพบกับโค้ชในที่ทำงานของผม โค้ชคนนั้นอายุเกือบ 70 ปีแล้ว โค้ชถามผมว่า "คุณเคยได้ยินเรื่องของ 'เสี่ยวหลิวไลฟ์สด' เจิ้งเซียงเซียงไหม" หลังจากนั้นเขาก็เล่าว่าเจิ้งเซียงเซียงสามารถทำยอดขายจากการไลฟ์สดในหนึ่งสัปดาห์ได้มากกว่า 400 ล้านไต้หวันดอลลาร์ ที่ธุรกิจขนาดเล็กและกลางยังไม่สามารถทำได้ในเวลา 10 ปีด้วยซ้ำ แต่เธอทำได้ในเวลาเพียงแค่ 7 วัน ถือว่าเป็นอะไรที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก
"เจ้าแม่ไลฟ์สดยุคใหม่" หรือ เจิ้งเซียงเซียง คือนักไลฟ์สดชื่อดังตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 เธอขายสินค้าทุก ๆ 3 ถึง 10 วินาทีในระหว่างการไลฟ์ เทคนิคการขายของเธอถูกเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีชื่อเสียงในเมืองจีนอย่าง Pinduoduo
การไลฟ์สดเพียง 3-4 ชั่วโมงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เพราะจริงๆแล้วหลังบ้านการไลฟ์สดขายของมีเครือข่ายซัพพลายเชนที่ซับซ้อนกว่าช่องทางค้าปลีกในที่มีหน้าร้านจริงๆซะอีก การไลฟ์สดจึงจำเป็นที่จะต้องการการคำนวณเวลาและต้นทุนการดำเนินงานหลังบ้านอย่างแม่นยำเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ดังนั้นถ้าอยากมียอดขายปังๆในการไลฟ์สด การพึ่งพาแค่นักไลฟ์หรือผู้ไลฟ์ที่อยู่หน้ากล้องเป็นอะไรที่ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว การจะขายสินค้าควรที่จะต้องอาศัยทั้งทีมหลังบ้านและผู้ไลฟ์ในการประสานงานกันเพื่อทำให้เกิดการไลฟ์สดและการจัดการหลังบ้านที่ไหลลื่น
และแล้วก็มาถึงการอธิบายที่ถูกเกริ่นไว้ที่ต้นบทความนั่นก็คือ “ทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้า” ทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้า มีหน้าที่ที่สำคัญในการปรับปรุงวิธีการทำให้สินค้าสามารถขายได้ ซึ่งนั่นก็คือการค้นหาคุณสมบัติเด่นของสินค้าที่ขาย เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ไลฟ์สดอยู่หน้ากล้องสามารถให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ซื้อได้แบบไม่มีสะดุดและสามารถขายได้
ทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้า มีขั้นตอนการเลือกสินค้า สองขั้นตอน:
ขั้นตอนแรก
กรองสินค้าโดยใช้ข้อมูลจากสถิติและประสบการณ์ นอกจากจะต้องพิจารณาว่าสินค้านั้นได้รับความนิยมในตลาดหรือไม่ ต้องเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับบุคลิกของผู้ไลฟ์สด พร้อมค้นหาสินค้าที่จะขายเป็นหลักในขั้นตอนนี้ด้วย
ขั้นตอนที่สอง
เขียนข้อมูลสินค้าตามลักษณะของสินค้าเพื่อนำไปใช้เป็นเนื้อหาในการไลฟ์สดขายสินค้า การจับโจทย์ของสินค้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก แต่ละแพลตฟอร์มหรือแบรนด์ก็อาจจะต้องมีแนวทางการขายที่แตกต่างกันออกไป โดยทริคเด็ด คือการใช้หลักการ “573” ของสินค้า
“ 5 จุดขายที่แตกต่าง ”
เพื่อโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางการถ่ายทอดสดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ เราสามารถเน้นที่ 5 จุดขายที่สำคัญ เช่น การค้นหาคุณลักษณะเฉพาะของสินค้า การเล่าเรื่องราวของแบรนด์ ความพิเศษของแหล่งที่มาของสินค้า และประเภทของสินค้า เพื่อสร้างความประทับใจและดึงดูดให้กับผู้ชม แนะนำให้เน้นจุดขายเหล่านี้อย่างน้อยสองครั้งในการถ่ายทอดสด เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ชมได้รับข้อมูลและเข้าใจถึงคุณค่าของสินค้าได้อย่างชัดเจน
“ 7 คุณสมบัติของสินค้า “
เราควรระบุคุณสมบัติทั่วไปของสินค้า และจัดลำดับตามความต้องการของผู้บริโภค โดยบ่งบอกถึงคุณค่าที่ผู้บริโภคจะได้รับจากสินค้าที่เราขาย สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของสินค้าที่ทุกแบรนด์มักจะมีอาจจะเป็น ความทนทาน, คุณภาพของวัสดุ, การใช้งานง่าย, ความปลอดภัย, และการบำรุงรักษาที่ง่าย ส่วนในการจัดลำดับตามความต้องการของผู้บริโภค สิ่งสำคัญอาจมีการจัดลำดับการให้ความสำคัญของกลุ่มลูกค้าของเราว่าปัจจัยอะไร เป็นที่ต้องการของกลุ่มคนดู เช่น หากกลุ่มลูกค้าของเรามองหาคุณภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ ความทนทานและคุณภาพของวัสดุอาจจะได้รับการจัดลำดับไว้ในอันดับแรกที่ถูกพูดถึงหรือพูดบ่อยในไลฟ์สดตอนขายสินค้านั้นๆ
“ 3 ฉากการใช้งาน “
ในระหว่างไลฟ์สด เพิ่มฉากการใช้งานบางฉาก จะทำให้ไลฟ์น่าสนใจยิ่งขึ้น การอยู่แต่ในฉากเดิมๆอาจจะทำให้ผู้ชมเราเบื่อ การมีอะไรที่เปลี่ยนแแปลงและแปลกใหม่ในไลฟ์จะทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกมีส่วนร่วมมากขึ้น
สุดท้าย ทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้าต้องมั่นใจว่า สินค้า ข้อมูลสินค้า คุณภาพการขาย และบทพูดมีความสอดคล้องกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค พ่อค้าแม่ค้าไลฟ์สดชื่อดังที่ขายเก่งๆสามารถพูดให้สินค้าธรรมดากลายเป็นสินค้าที่ดูมีค่าได้ แต่บางครั้งก็มีกรณีที่ไลฟ์สดที่ตุ๊บเพราะคำพูดในไลฟ์หรือขายของที่ไม่มีคุณภาพออกไปทำผู้บริโภคร้องเรียนได้ ดังนั้นทีมงานหลังบ้านที่ช่วยเลือกสินค้าจึงต้องเป็นผู้กรองสินค้าร่วมกับผู้ไลฟ์ และไม่ลืมที่จะเปรียบเทียบกับทดลองใช้สินค้าก่อนนำมาขาย
นักไลฟ์ที่มีชื่อเสียงและดาราบางคนจะมีมาตรฐานการเลือกสินค้าที่สูง และจะจัดประชุมเพื่อให้ทีมงานประเมินผลิตภัณฑ์ การเลือกสินค้าที่ดีสามารถลดอัตราการคืนสินค้าและเพิ่มมูลค่าแบรนด์ของผู้ไลฟ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่มีให้มีดราม่าหรือปัญหาต่างๆตามมาทีหลัง
เจิ้งไคหยาง ผู้บริหาร JamboLive ทิ้งท้ายว่า“ผมชอบคำพูดของ Peter Drucker ที่พูดว่า "องค์กรคือการรวมกลุ่มคนธรรมดาเพื่อทำสิ่งที่ไม่ธรรมดา" การใช้คำนี้อธิบายทีมไลฟ์สดนั้นเหมาะสมอย่างยิ่ง การเลือกสินค้ามีบทบาทสำคัญในการเติบโตของธุรกิจการขายผ่านการไลฟ์สด นอกจากการเลือกสินค้าที่มีคุณภาพและน่าสนใจ การเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายยังเป็นปัจจัยสำคัญอีกด้วย เพราะมันมีผลต่อประสิทธิภาพของการขายเป็นอย่างมาก”
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเคสของแม่ค้าไลฟ์สดที่ทำยอดขายถล่มถลาย อ่านแล้วทำให้มีแรงกำลังใจที่จะฮึดสู้ต่อไปเพื่อให้มีซักวันที่เป็นวันปังๆของเรากันบ้างไหมคะ จัมโบ้หวังว่าทุกคนจะสามารถทำตามฝันได้ และนำทริคความรู้ดีๆนี้ไปใช้ในการเลือกสินค้ามาขายของออนไลน์กันนะคะ^^
นอกจากทีมงานหลังบ้านที่ดีแล้วการมีระบบหลังบ้านที่ดีเป็นตัวช่วยขายอย่างระบบดูดออเดอร์ & จัดการหลังบ้าน JamboLive ก็จะทำให้การขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นและจัดการเป็นระบบไม่งงและไม่สับสนอีกด้วย!
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ติดต่อ:
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
วันนี้จัมโบ้มาแนะนำการใช้ฟีเจอร์จับฉลาก (Lucky Draw) หนึ่งในฟีเจอร์ที่ช่วยสร้างความสนุกสนานและดึงดูดลูกค้าเก่าและใหม่เข้าร่วมกิจกรรมในระหว่างการไลฟ์สด เป็นฟีเจอร์ที่ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มยอดคนดูไลฟ์สด แต่ยังช่วยกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มโอกาสสร้างลูกค้าประจำได้อีกด้วย การสุ่มจับรางวัลโดยใช้ฟีเจอร์นี้สามารถสุ่มผู้โชคดีได้หลายรูปแบบ มีอะไรบ้างมาดูกัน!
1. เลือกผู้โชคดีจากการคอมเมนต์ร่วมสนุกภายใน Live
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้เราสามารถสร้างความสนุกสนานให้กับลูกค้าได้ง่าย ๆ โดยการตั้งค่าข้อความที่ต้องการให้ลูกค้าคอมเมนต์ระหว่างการไลฟ์สด ระบบจะทำการสุ่มเลือกผู้โชคดีจากคอมเมนต์ทั้งหมด โดยจำนวนสิทธิ์จะขึ้นอยู่กับจำนวนคอมเมนต์ที่ลูกค้าพิมพ์ ยิ่งคอมเมนต์มากเท่าไหร่ ยิ่งมีสิทธิ์ได้รับรางวัลมากเท่านั้น
2. เลือกผู้โชคดีจากยอดคำสั่งซื้อภายในวันและเวลาที่กำหนด
เราสามารถเลือกวันและเวลาเพื่อดูยอดคำสั่งซื้อทั้งหมด และทำการสุ่มเลือกผู้โชคดีจากยอดคำสั่งซื้อทั้งหมดในวันและเวลาที่กำหนดได้ โดยจำนวนสิทธิ์จะขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้า SKUs ที่ลูกค้าสั่งซื้อ ยิ่งสั่งซื้อมากเท่าไหร่ ยิ่งมีสิทธิ์ได้รับรางวัลมากเท่านั้น
3. เลือกผู้โชคดีจากการจับสลากตามราย SKU (Single SKU)
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้เราสามารถเลือกวัน/เวลา หรือรอบ Live เพื่อดูคำสั่งซื้อทั้งหมด และสุ่มเลือกผู้โชคดีจากผู้ที่มีจำนวนคำสั่งซื้อของสินค้าแต่ละ SKU โดยจำนวนสิทธิ์จะขึ้นอยู่กับจำนวนที่สั่งซื้อของ SKU นั้น ๆ
4. เลือกผู้โชคดีจากการจับสลากหลาย SKUs (Multi-SKUs)
ระบบสามารถตั้งค่าสุ่มรางวัลจากการเลือกหลาย SKU ของสินค้าเพื่อดูคำสั่งซื้อทั้งหมด และสุ่มเลือกผู้โชคดีจากผู้ที่มีจำนวนคำสั่งซื้อของ SKUs ที่เลือก โดยจำนวนสิทธิ์สุ่มจับรางวัลจะขึ้นอยู่กับจำนวนการสั่งซื้อของ SKUs ของลูกค้า
ข้อดีของฟีเจอร์ Lucky Draw จาก JamboLive
- สามารถตั้งค่าให้ผู้ที่ได้รับรางวัลแล้ว ไม่มีสิทธิ์รับรางวัลถัดไปได้ (ยังแสดงรายชื่อว่ามีสิทธิ์ แต่ระบบจะไม่เลือกให้ได้รางวัลอีก)
- หลังจากพิมพ์ประกาศผู้ที่ได้รางวัลในช่องคอมเมนต์
- เพิ่มความตื่นเต้นและสนุกสนานให้กับลูกค้าระหว่างการไลฟ์สด
- เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า ทั้งการคอมเมนต์และการสั่งซื้อ
- กระตุ้นยอดขายจากการตั้งรางวัลสำหรับผู้โชคดีสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น
- สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน: ระบบจัดการฟีเจอร์ Lucky Draw ของ JamboLive ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายขายไม่มีสะดุด
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ติดต่อ:
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
**บทความต้นฉบับจัดทำโดย เจิ้งไค่หยาง CEO ของ JamboLive Technology LTD. โดยเนื้อหาบางส่วนอาจได้รับการดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับบริบทของผู้อ่านภาษาไทย
กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญเป็นผู้พูดในงาน "Top 100 Live" ของธุรกิจและการเงิน โดยในนั้นผมมีโอกาสในการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำให้การไลฟ์สดของแบรนด์เปลี่ยนเป็นเงิน เมื่อมาถึงช่วงถามตอบ มีผู้เรียนถามผมว่า "การไลฟ์สดของแบรนด์อาจจะทำให้ลดภาพลักษณ์ของแบรนด์ไหม?"
คำถามนี้เป็นคำถามที่ถูกถามอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งที่ต้องตอบก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะการไลฟ์สดเพื่อขายสินค้าได้เป็นอุตสาหกรรมที่ก้าวหน้าแล้ว แต่เมื่อคนทั่วไปบางกลุ่มมองมา กลับกลายเป็นยังคงมองการไลฟ์สดเหมือนกับการลดทอนภาพลักษณ์ของแบรนด์
การขายสินค้าผ่านช่องทางไลฟ์สดเป็นการรวมกันของสื่อ โซเซียลมีเดีย การจัดหาสินค้า การตลาด และความบันเทิงในรูปแบบใหม่ เรียกได้ว่าเป็น "ช่องทางส่วนตัว" (Self-channel) หมายความว่า นอกจากการสร้างแบรนด์ ขายสินค้า และสร้างข้อความ แล้วยังเป็นการโปรโมตและสร้างชื่อเสียงให้กับผู้ไลฟ์อีกด้วย
ปีนี้หลังจากเหตุการณ์ ที่เขย่าขวัญในเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในฮัวเหลียน ไต้หวัน ไม่กี่วันหลังจากนั้นภรรยาของผมได้ตั้งใจจะจัดงานไลฟ์สดขายสินค้าเพื่อที่เราจะบริจาคส่วนของรายได้จากการขายสินค้าในคืนนั้นให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในฮัวเหลียน ในคืนนั้น มีจำนวนผู้ร่วมสนับสนุนผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่า 500 คน ซึ่งได้ร่วมกันบริจาคเงิน 100,000 บาทให้กับชาวฮัวเหลียน นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเธอซื้อของแล้วไม่รู้สึกผิดหวังและยังเชื่อมั่นในตัวเองอีกด้วย เหตุการณ์นี้ทำให้เราเห็นได้ว่า การไลฟ์สดไม่เพียงแต่ส่งเสริมเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งเสริมการช่วยเหลือสังคมอีกด้วย ซึ่งนี่เป็นช่องทางใหม่ที่ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรื่องราวที่เต็มเป็นด้วยความหวังปนเศร้า ของคุณ ไช่เล่ย (Tsai Lei) อดีตรองประธานกรรมการ JD.com ที่ให้ความสำคัญต่อการไลฟ์สดจนถึงวินาทีสุดท้าย
อดีตรองประธานบริหาร JD.com ในปี 2019 รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค ALS หรือ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ในตอนที่อายุ 40 ปี สิ่งที่น่าเศร้าคือ คุณไช่เล่ย เพิ่งแต่งงานได้เพียงหนึ่งปี และมีลูกที่พึ่งลืมตามาดูโลกแค่ไม่กี่เดือน ก็ได้มารับรู้ว่าชีวิตของเขาเหลืออีกเพียง 2-5 ปี เท่านั้น จากการอยู่จุดสูงสุดของชีวิต ทุกสิ่งกลับเหมือนพังลงมาต่อหน้าต่อตา แต่คุณไช่เลยไม่ยอมให้ตนเองจมอยู่ในความเสียใจ แต่กลับมองหาทุกช่องทางที่จะหาทางรักษา เขาใช้ความเชี่ยวชาญในด้านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เงินทุน และการจัดทำเงิน เชื่อมโยงกับโรงพยาบาล ศูนย์วิจัย และบริษัทเทคโนโลยีพัฒนายา รวมถึงเป็นที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ป่วยหลากหลายประเภท เขาได้ร่วมกันก่อตั้งแพลตฟอร์มข้อมูลเกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อร่างกายของเขาเริ่มสูญเสียความสามารถในการขยับ พวกเขาคู่สามีภรรยาก็ต้องพยายามทำงานเพื่อให้ครอบครัวดำเนินชีวิตต่อไปได้ โดยเริ่มทำการขายสินค้าผ่านช่องทางการไลฟ์สดโดยขายสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน การไลฟ์สดครั้งแรกของเขามีผู้ชมอยู่เพียง 23 คน แต่พอเวลาผ่านไปไลฟ์สดของเขา ก็เติบโตไปจนถึงการมีผู้ชมเข้าไปดูมากกว่า 70,000 คน และสามารถหาเงินได้มากกว่า 800,000 หยวน หรือราวๆ 4 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมง เมื่อคุณ ไช่เล่ยเหลือเพียงไม่กี่นิ้วของมือที่ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ การขายสินค้าผ่านช่องทางไลฟ์สดก็ได้ถูกโอนไปยังภรรยาของเขา ในเวลากลางวันเธอไปทำงานในสำนักงานของนักบัญชี และในเวลากลางคืนเธอจะทำการไลฟ์สดเพื่อหารายได้ให้ครอบครัว
ในปีที่ผ่านมาคุณไช่เล่ย ได้ทำการไลฟ์สดขายสินค้าบนแพลตฟอร์มของตัวเอง เพื่อหนังสือที่เขียนโดยเขาที่มีชื่อว่า "相信" ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า เชื่อมั่น และในขณะนั้นการขายเขาเพียงแค่สามารถพูดได้เพียงว่า "ยินดีต้อนรับสู่การเป็นผู้ติดตาม" เท่านั้น มีผู้ชมหลายคนที่ต้องการให้เขาพักผ่อนบ้าง โดยการเสนอเงินเยียวยาที่รวมถึง 5 ล้านหยวน หรือราวๆ 25 ล้านบาท เพื่อให้เขาพัก แต่เขากลับปฏิเสธไป เพราะเขายืนกรานในการตัดสินใจที่จะทำการไลฟ์สดต่อไป
ไม่ว่าผมจะได้อ่านเรื่องราวของเขาอีกกี่ครั้ง ผมไม่สามารถหยุดคิดได้ว่าถ้าหากเราเชื่อว่าเรามีความเชื่อมั่นเราสามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ และทำให้เรามีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งดี ๆสู่สังคมได้
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ติดต่อ:
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
เดี๋ยวนี้ Facebook ก็เหมือนกับตลาดออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายแบบไม่จำเป็นที่จะต้องมีหน้าร้านสำหรับขาย พ่อค้าแม่ขายที่อยากทำธุรกิจส่วนตัวสามารถสร้างเพจและมีร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายๆ บนช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะ Facebook ดังนั้นวันนี้จัมโบ้เลยมาแชร์วิธีสร้างเพจ และดูแลเพจเบื้องต้นแบบง่ายๆ ฉบับมือใหม่อ่านแล้วนำไปทำตามได้เลย!
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนสร้างเพจ:
ชื่อเพจ: การเลือกชื่อเพจที่จดจำง่ายและสื่อถึงสินค้าหรือบริการที่เราขายอย่างชัดเจนเป็นเรื่องที่สำคัญ เราควรเลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของเรา เพื่อทำให้เวลาลูกค้าทำการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดนั้นๆเจอเพจเราได้ง่าย
รูปโปรไฟล์: เลือกรูปภาพที่ชัดเจนและดึงดูดสายตา อาจจะใช้โลโก้ที่แสดงถึงแบรนด์ของเรา
รูปปก: เลือกรูปที่สื่อถึงสินค้าหรือบริการ อาจจะมีข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการคร่าวๆในรูปปกเพื่อให้ลูกค้าสามารถอ่านและเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าสินค้าหรือบริการเราคืออะไร
ข้อมูลเพจ: เตรียมข้อมูลเพื่อกรอกให้ครบถ้วน เช่น website เบอร์โทรศัพท์ ช่องทางการติดต่อ และข้อมูลอื่นๆ
สินค้า: ถ้าจะขายสินค้าเราก็ต้องมีการเตรียมรูปภาพสินค้า คำอธิบายสินค้า และราคา ให้ครบถ้วนและชัดเจนง่ายต่อการดู ซื้อ และสอบถามจากลูกค้า
ขั้นตอนวิธีการสร้างเพจ Facebook:
สร้างเพจบนคอมพิวเตอร์
1) เข้าสู่ระบบ Facebook
2) คลิกที่ "เพจ" ที่เมนูด้านซ้าย (กด "ดูเพิ่มเติม" หาก "เพจ"ถูกซ่อนเอาไว้อยู่)
3) เมื่อกดเข้าไป คลิก "สร้างเพจใหม่"
4) ตั้งชื่อเพจ และ ระบุหมวดหมู่ของเพจ
5) กรอกข้อมูลเพจ เบอร์โทร อีเมล ที่อยู่ ข้อมูลอื่นๆของร้านค้า และปุ่มดำเนินการ
6) คลิก "เรียบร้อย"เมื่อกรอกข้อมูลเพจครบถ้วนแล้ว
สร้างเพจบนโทรศัพท์มือถือ
1) เข้าสู่ระบบ Facebook
2) คลิก โปรไฟล์ที่ด้านขวาล่าง เข้าไปที่แถบเมนู เลือก "เพจ"
3) กด "สร้าง" หลังจากนั้น กด "เริ่มต้น"
4) ใส่ชื่อเพจ
5) เลือก "หมวดหมู่" ของธุรกิจ
6) กด "สร้าง"
7) ปรับแต่งรูปโปรไฟล์ และ รูปปก
8) หลังจากปรับแต่งโปรไฟล์และกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว กดเสร็จสิ้น
หลังจากสร้างเพจ Facebook เรียบร้อยแล้ว การปรับแต่งเพจ ดูแล และอัปเดตเพจอยู่เสมอก็สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าไม่มีการปรับปรุงและอัปเดตเพจอยู่เสมอเพจของเราอาจจะดูเหมือนเพจร้างและทำให้ลดโอกาสการสนใจซื้อของลูกค้า
7 เทคนิคทำเพจ Facebook
#1 โพสต์รูปภาพสินค้าให้ปัง!
- เลือกรูปสินค้าที่ชัดเจน สวยงาม ดึงดูดสายตา
- แสดงสินค้าจากหลายมุม อาจจะใช้ความใกล้ไกลในการถ่ายรูปสินค้า เพื่อให้เห็นถึงดีเทลของสินค้านั้นๆ
- ใส่รายละเอียดสินค้าครบถ้วน เช่น ไซส์ สี และราคา
#2 เขียนแคปชั่น และคำบรรยายเกี่ยวกับสินค้าให้ครบถ้วน
- เขียนข้อความที่กระชับ เข้าใจง่าย
- คำกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อ คำสร้างความรู้สึกเร่งด่วน
- เน้นจุดเด่นของสินค้า
#3 ทำโปรโมชั่น กระตุ้นยอดขายอยู่เสมอ
- เสนอโปรโมชั่นตามเทศกาล
- แจ้งส่วนลด สินค้าราคาพิเศษ
- กำหนดเวลาโปรโมชั่นแบบชัดเจน
#4 ใส่ใจในการตอบคำถามลูกค้า
- การให้ข้อมูลครบถ้วน
- ตอบคำถามลูกค้าอย่างรวดเร็ว
- แสดงถึงความใส่ใจในการตอบสอบถามความต้องการของลูกค้า
#5 จัดกิจกรรมและแคมเปญร่วมสนุกให้ลูกค้าสนใจ
- จัดกิจกรรมแจกของรางวัล สร้าง engagement ให้กับเพจของเรา
#6 ไลฟ์สดขายสินค้า ขยายช่องทางการขาย
- โชว์สินค้าจริง ลูกค้าได้เห็นรายละเอียดของสินค้าจริงจากไลฟ์สด
- พูดคุยกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ สร้างการมีส่วนร่วมภายในไลฟ์สด
- เสนอโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในไลฟ์สด
#7 พัฒนาและปรับปรุงเพจอยู่เสมอ
- วิเคราะห์ข้อมูลการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมของแต่ละโพสต์เพื่อนนำมาปรับปรุงคอนเทนต์ต่อไป
- ปรับแต่งกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมลูกค้า
- เรียนรู้เทคนิคการขายของออนไลน์ใหม่ๆ อยู่เสมอ
- พัฒนาสินค้า บริการ และประสบการณ์การใช้งานให้ลูกค้าประทับใจ
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ติดต่อ:
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
ใบกำกับภาษี คืออะไร สำหรับแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคย หรืออาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร ทำไมถึงต้อง “ออกใบกำกับภาษี” วันนี้จัมโบ้ไลฟ์มาแชร์ความรู้ให้เพื่อนๆพ่อค้าแม่ขายให้รู้กันค่ะ
ใบกำกับภาษี เปรียบเสมือนใบเสร็จรับเงินฉบับพิเศษ ที่มีรายละเอียดครบถ้วนเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ เปรียบเสมือนหลักฐานสำคัญที่ใช้ชี้แจงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับธุรกรรม
ใครเป็นผู้มีหน้าที่ออกใบกำกับภาษี ?
ผู้ขายที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เท่านั้นที่มีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีให้กับผู้ซื้อ
ใบกำกับภาษีมีทั้งหมดกี่ประเภท ?
ปัจจุบันกรมสรรพากรได้แบ่งใบกำกับภาษีออกเป็น 7 ประเภท ดังนี้
1. ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
2. ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ
3. ใบเพิ่มหนี้
4. ใบลดหนี้
5. ใบเสร็จรับเงินที่ส่วนราชการออกให้ในการขายทอดตลาด
6. ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่ออกให้สำหรับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม
7. ใบเสร็จรับเงินของกรมศุลกากร หรือกรมสรรพสามิตออกให้ในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
ใบกำกับภาษีอย่างย่อมีอะไรบ้าง ?
1. คำว่า "ใบกำกับภาษีอย่างย่อ"
2. ชื่อและเลข 13 หลักของผู้ออกใบกำกับภาษี
3. หมายเลขลำดับหรือเลขที่ใบกำกับภาษี
4. วันที่ออกใบกำกับภาษี
5. ชื่อ, ชนิด, และประเภทสินค้าหรือบริการ
6. ปริมาณและมูลค่าของสินค้าหรือบริการ (สามารถใช้รหัสแทนได้)
7. ราคาสุทธิของสินค้าหรือบริการรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
8. ข้อความสำคัญอื่น ๆ ที่มีการกำหนดโดยหน่วยงานสรรพากร
ใบกำกับภาษีมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจและรูปแบบการขาย แต่ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป นั้นเป็นแบบที่ใช้ทั่วไป เหมาะกับการขายสินค้าหรือบริการทั่วไป
ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปมีอะไรบ้าง ?
1. คำว่า "ใบกำกับภาษี" อยู่ตรงกลางด้านบนของใบเสร็จ
2. ข้อมูลผู้ขาย: ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
3. ข้อมูลผู้ซื้อ: ชื่อ ที่อยู่
4. หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และ หมายเลขเล่ม (ถ้ามี)
5. รายการสินค้าหรือบริการ: ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่า
6. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แยกชัดเจนจากมูลค่าสินค้าหรือบริการ
7. วันที่ออกใบกำกับภาษี
ดูตัวอย่างใบกำกับภาษี
วิธีเขียนรายการในใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
- เรียงลำดับสินค้าหรือบริการให้ชัดเจน
- ระบุชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และหน่วยวัด
- ระบุราคาต่อหน่วย
- คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- ระบุยอดรวมสินค้าหรือบริการ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และยอดสุทธิ
แม่ค้าออนไลน์ต้องออกใบกำกับภาษีเมื่อไหร่ ?
- เมื่อมีการขายสินค้าหรือบริการ
- เมื่อได้รับเงินค่าสินค้าหรือบริการ
- ก่อนส่งมอบสินค้าหรือบริการ
ใบกำกับภาษีสำคัญอย่างไร ?
- เป็นหลักฐานสำคัญในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- ผู้ขายที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สามารถนำไปขอคืนภาษีซื้อได้
ข้อควรระวังในการออกใบกำกับภาษี
1. เฉพาะผู้ขายที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เท่านั้นที่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษี
ผู้ขาย ที่ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไม่ สามารถออกใบกำกับภาษีได้
2. ต้องระบุรายละเอียดในใบกำกับภาษีให้ครบถ้วน
รายละเอียด ที่ต้องระบุในใบกำกับภาษีมี ดังนี้:
- ชื่อ-นามสกุล หรือ ชื่อนิติบุคคล ของผู้ขายและผู้ซื้อ
- ที่อยู่ ของผู้ขายและผู้ซื้อ
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของผู้ขาย
- วันที่ เวลา ของการออกใบกำกับภาษี
- รายละเอียดสินค้าหรือบริการ จำนวน หน่วย ราคาต่อหน่วย และ ราคาสุทธิ
- จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- ยอดเงินรวม
- ลายเซ็น ของผู้ขาย
3. ออกใบกำกับภาษีให้ทันต่อสถานการณ์
- ผู้ขายควรออกใบกำกับภาษี ให้ทันต่อสถานการณ์
- ไม่ควรรอจนนานเกินไป หลังจากมีการขายสินค้าหรือบริการ
- การออกใบกำกับภาษี ที่ล่าช้าอาจทำให้เกิดปัญหากับลูกค้าหรือกรมสรรพากร
4. ไม่ลืมเสียภาษี
- ผู้ขายที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กับกรมสรรพากร
- การเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ต้องทำตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
- การไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไม่ครบถ้วนอาจถูกปรับหรือโดนโทษอื่นๆ
5. แสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้า
- ผู้ขายควรแสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้า โดยการออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้องครบถ้วนและตรงตาม ความเป็นจริง
- ใบกำกับภาษี เป็น เอกสารสำคัญที่ลูกค้าสามารถใช้เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี หรือใช้ประกอบ ธุรกิจ อื่นๆ
- การออกใบกำกับภาษีที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ลูกค้าเดือดร้อนได้
สินค้าและบริการประเภทไหนที่ไม่ต้องออกใบกำกับภาษี ?
- สินค้าหรือบริการที่ราคาไม่เกิน 1,000 บาท
- สินค้าหรือบริการที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- กิจการที่มีรายได้ไม่ถึง 300,000 บาทต่อเดือน
- การขายสินค้าหรือบริการแบบรถเข็น แผงลอย
- การให้บริการงานแสดง งานรื่นเริง กีฬา การแข่งขัน การประกวดต่างๆ
รู้ไว้... ใบกำกับภาษี เปรียบเสมือนผู้ช่วยสำคัญที่ช่วยให้แม่ค้าออนไลน์จัดการเรื่องภาษีได้อย่างถูกต้อง แม่ค้ามือใหม่ทุกคนอย่าลืมศึกษาข้อมูลและออกใบกำกับภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมายนะคะ ส่วนใครกำลังขายของออนไลน์และต้องการออกใบกำกับภาษีให้กับผู้ซื้อ สามารถออกใบกำกับภาษีได้ง่ายๆผ่านระบบ JamboLive ได้เลย!
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
พ่อค้าแม่ค้าฟังทางนี้! สมัยนี้ขายของออนไลน์ต้องไว ต้องทัน ต้องจ่ายง่ายๆ ทั้งคนซื้อคนขาย Meta Pay (Facebook Pay) บริการชำระเงินที่สะดวกสบายจาก Meta ตอบโจทย์ทุกความต้องการของพ่อค้าแม่ขายออนไลน์
ข้อดีของการใช้ Meta Pay
สะดวก
- ลูกค้าชำระเงินง่ายๆ รวดเร็ว ผ่านบัตร แอปธนาคาร หรือ QR Code โดยไม่ต้องออกจากแชท
- ปิดการขาย จบไว ในแชทเดียว บน Messenger
- ระบบแจ้งเตือนสถานะการชำระเงิน ส่งสลิปให้ทันที
- ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต: Visa, Mastercard, JCB (มีค่าธรรมเนียม 2.5%)
- ชำระเงินผ่านแอปธนาคาร: K PLUS, SCB Easy, KMA, Bualuang mBanking
- ชำระเงินผ่าน QR Code: พร้อมเพย์ Prompt Pay
ปลอดภัย
- มั่นใจได้ทุกการจ่าย ด้วยระบบ Verified e-slip ป้องกันสลิปปลอม
- ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
- ติดต่อศูนย์บริการลูกค้าได้ 24 ชั่วโมง
ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
- ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า และไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน
- ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการรับชำระเงินผ่านการโอนเงิน แอปธนาคาร และ QR Code
Link สำหรับสมัคร
สมัครผ่านมือถือกดลิงก์นี้
fb://messaging_commerce_seller_onboarding_main?sellerType=PAGE&Source=zwiz_web_p_payment_setting
สมัครทางคอมพิวเตอร์กดลิงก์นี้
https://www.facebook.com/settings?tab=payments§ion=pages_onboarding_landing_page&source=chatsupport
วิธีสมัคร: ประเภทบุคคลธรรมดา
ขั้นตอนการสมัคร
1. กรอกข้อมูลผู้สมัครตามที่ระบุบนบัตรประชาชน และถ่ายรูปบัตรประชาชน ตัวจริงของผู้สมัคร (ด้านหน้าเท่านั้น)
2. ระบุหมวดหมู่ของร้านค้า โดยเลือกให้ตรงกับธุรกิจที่ปรากฏบนเพจของ ร้านค้ามากที่สุด
3. ผูกบัญชีธนาคารที่ต้องการใช้รับเงิน (ธนาคารใดก็ได้) หากไม่สามารถ กรอกเลขบัญชีธนาคารได้ กรุณาอัพโหลดเอกสารเพิ่มเติม หรือติดต่อ Call Center ที่ 02-008-8820
ท่านจะได้รับแจ้งผลการอนุมัติภายใน 24 ชั่วโมง และสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันที
สำคัญ: ชื่อ-สกุลผู้สมัคร จะต้องตรงกับบัตรประชาชน และตรงกับบัญชีธนาคาร ที่ระบุในข้อ 3 เพื่อการยืนยันตัวตน และความปลอดภัยของคุณ
คุณสมบัติผู้สมัคร
1. มีสัญชาติไทย มีถิ่นพำนัก และประกอบการอยู่ในประเทศไทย
2. อายุมากกว่า 20 ปีบริบูรณ์
3. มีบัตรประจำตัวประชาชนที่ไม่หมดอายุ
4. เปิดเพจขายสินค้าไม่ต่ำกว่า 3 วัน
5. มีการขายสินค้า และบริการ ถูกต้องตามกฎหมาย
เอกสารประกอบการสมัคร
1. บัตรประชาชนตัวจริง (ถ่ายรูปหน้าบัตรระหว่างขั้นตอนการสมัคร)
2. เลขบัญชีธนาคารที่ต้องการใช้ในการรับเงิน
การสมัครบัญชีประเภทนิติบุคคล
ขั้นตอนการสมัคร
1. ร้านค้ากรอกรายละเอียดการสมัครบนเพจ Meta
2. ดาวน์โหลดเอกสารใบสมัครและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน https://www.kasikornglobalpayment.com/assets/page/juristic/doc/application-form-re-26-oct.pdf
3. เตรียมเอกสารบริษัทตามที่ระบุในหัวข้อ “เอกสารประกอบการสมัคร” ด้านล่าง
4. นำส่งใบสมัคร และเอกสารประกอบการสมัครที่ลงลายมือชื่อรับรองเอกสาร ที่สาขาของธนาคารกสิกรไทยสาขาใดก็ได้ ทั่วประเทศ เพื่อยืนยันตัวตน
5. KGP จะแจ้งสถานะการสมัครทาง Meta ภายใน 3-6 วันหลังจากท่านส่ง เอกสารครบถ้วน
เอกสารประกอบการสมัคร
ลงลายมือชื่อรับรองเอกสารโดยกรรมการผู้มีอำนาจทุกท่านตามระบุใน หนังสือรับรอง และ ประทับตราบริษัท (ถ้ามี)
1. ใบสมัครใช้บริการรับชำระเงินผ่าน Meta Pay https://www.kasikornglobalpayment.com/assets/page/juristic/doc/application-form-re-26-oct.pdf
2.สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ออกภายใน 3 เดือน
3.สำเนารายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ 5)
4.สำเนา บอจ 3 (กรณีมีตราประทับ) หรือ สำเนา บอจ 4 กรณีมีการแก้ไข รายการจดทะเบียนตราประทับ
5.สำเนาบัตรประชาชนขอผู้ติดต่อหลักพร้อมลงลายมือชื่อรับรองเอกสาร
6.สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจผูกพันตามหนังสือรับรอง บริษัท (ทุกท่าน) พร้อมลงลายมือชื่อรับรองเอกสาร
7.กรณีมอบอำนาจ: หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประชาชนของผู้ติดต่อ หลักพร้อมลงลายมือชื่อรับรองเอกสาร และติดอากรสแตมป์ 30 บาท
โดยระบุว่า - “มอบอำนาจให้สมัครใช้บริการรับชำระเงินกับทาง บริษัท กสิกร โกลบอล เพย์เมนต์ จํากัด"
กรณีนิติบุคคลมีกรรมการผู้มีอำนาจตามหนังสือรับรองมากกว่า 1 ท่าน และไม่สามารถ มายื่นเอกสารด้วยตนเองได้ครบทุกท่าน จะต้องทำการมอบอำนาจให้กับท่านที่มา ดำเนินการยื่นเอกสาร หรือมอบอำนาจให้ผู้กระทำการแทนนิติบุคคลเป็นผู้ยื่นเอกสาร แทนได้
สำเนาสมุดบัญชีธนาคารของนิติบุคคล กรณีใช้บัญชีออมทรัพย์ หรือ Statement กรณีใช้บัญชีกระแสรายวัน
*หมายเหตุ: ชื่อบัญชีนิติบุคคลที่ใช้รับเงินจะต้องตรงกับชื่อนิติบุคคลที่ทำการสมัคร สำคัญ: สามารถใช้บัญชีนิติบุคคลของธนาคารใดก็ได้ในการรับเงิน
กรณีที่นิติบุคคลต้องการสมัครใช้บริการกับเพจ Meta มากกว่า 1 เพจ ภายใต้ชื่อนิติบุคคลเดียวกัน สามารถส่งเอกสารการสมัครเพียง 1 ชุด และ ระบุเพจที่ต้องการสมัครเพิ่มเติมได้ในใบสมัครหน้าที่ 4 (สูงสุด 30 เพจ ต่อ 1 ชื่อผู้สมัคร)
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE:https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
**บทความนี้จัดทำโดย ผู้บริหารสูงสุด JamboLive เจิ้งไค่หยาง เนื้อหาบางส่วนอาจได้รับการดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับบริบทของผู้อ่านภาษาไทย
ท่านผู้บริหาร JamboLive เจิ้งไค่หยาง กล่าวว่า เพื่อนที่ทำงานเป็นผู้จัดการแบรนด์คนหนึ่งปรึกษากับเขาว่า "เดี๋ยวนี้ใช้เงินไปกับการตลาด 95% ไม่ได้ผลเลย ถ่ายโฆษณา ทำโซเชียลมีเดีย จัดกิจกรรม VIP ไม่ว่าจะทำเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่หรือรักษาฐานลูกค้าเก่าก็ยากที่จะเพิ่มยอดการใช้จ่ายของลูกค้า เว้นแต่จะทุ่มเงินมากกว่าเดิม 2-3 เท่าถึงจะเห็นผลลัพธ์" แสดงให้เห็นว่าการลงทุนไป 95% ของการตลาดนั้นไม่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนการเข้าถึงลูกค้าสูง ดึงดูดลูกค้ามาได้แต่รักษาไว้ไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับแบรนด์เป็นอย่างมาก เดี๋ยวนี้มีสินค้าเลียนแบบราคาถูกมากมายดึงดูดลูกค้า แม้ว่าลูกค้าจะชอบแบรนด์ แต่ก็ไม่มีกำลังซื้อที่เพียงพอ จึงเกิดคำถามว่า
แบรนด์จะดึงดูดลูกค้าใหม่ รักษาฐานลูกค้าเก่า และสร้างการเติบโตของรายได้ได้ยังไงล่ะ?
ปัจจุบันแบรนด์ดังๆ เช่น Louis Vuitton, GUCCI, แบรนด์เครื่องสำอาง Lancome และ Kiehls รวมไปถึงห้างสรรพสินค้า Walmart ต่างก็เลือกใช้ไลฟ์สดเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ในตลาดใหม่ๆ
โดยมี 3 มุมมองต่อการใช้ไลฟ์สดเพื่อขยายการเข้าถึงลูกค้า:
จากมุมมองของความต้องการของลูกค้า
ไลฟ์สดเป็นช่องทางการขายแบบผสมผสานที่รวมเอาการขาย ความบันเทิง การสื่อสาร ไว้ด้วยกัน เป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้ง 3 ระดับ: สินค้า บรรยากาศ และความสนุกสนาน ตอบสนองเทรนด์การมีส่วนร่วมของลูกค้าผ่านช่องทางไลฟ์สด
จากมุมมองของต้นทุน
การไลฟ์สดสามารถลดต้นทุนการเข้าถึงลูกค้าของแบรนด์ เพิ่มยอดขายจากลูกค้าเก่า และขยายช่องทางการขายให้เข้าถึงกลุ่มคนได้มากยิ่งขึ้น
จากมุมมองของกลยุทธ์
แบรนด์เปลี่ยนจากแนวคิดที่เน้นผลิตภัณฑ์ (Product driven) มาเป็นแนวคิดที่เน้นตลาด (Market driven) เข้าถึงตลาดโดยตรง สัมผัสประสบการณ์ของผู้บริโภค ใช้ข้อมูลนี้เพื่อค้นหาความต้องการ และฝังภาพลักษณ์ของแบรนด์ไว้ในใจของลูกค้า
เทคนิคการไลฟ์สดในแบรนด์:
1. ไลฟ์สดขายที่ไม่สามารถซื้อสินค้าได้แบบเรียลไทม์ (Open and Non-real-time shoppable Live Stream)
จุดเด่น:
-สร้างการมีส่วนร่วมและกระตุ้นยอดขาย: ดึงดูดผู้ชมด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจ แนะนำสินค้า กระตุ้นความสนใจ และนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษ
-เก็บข้อมูลลูกค้า: รวบรวมข้อมูลผู้ชม เช่น ความสนใจ พฤติกรรมการรับชม นำไปวิเคราะห์ต่อยอดทางการตลาด
-สร้างการรับรู้แบรนด์: โปรโมทแบรนด์ สินค้าและบริการให้เป็นที่เป็นที่รับรู้
ตัวอย่างแบรนด์: Louis Vuitton
ในปี 2020 LVMH กลุ่มสินค้าหรูหราที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เปิดตัวการไลฟ์สดแบบไม่เรียลไทม์ครั้งแรกบนแพลตฟอร์ม Xiaohongshu โดยเชิญ เฉิง เสี่ยวเย่ อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามหลายล้านคน และ จง ชู ซี ดาราชื่อดังมาเป็นพิธีกรไลฟ์สด สวมใส่สินค้าใหม่ของ LV อธิบายเทรนด์แฟชั่นในฤดูกาลนั้น LV จำกัดจำนวนผู้ชมเพื่อรักษาคุณภาพการโต้ตอบและส่งมอบข้อความของแบรนด์อย่างสมบูรณ์ ผู้ชมสามารถดูราคาสินค้าได้ แต่ไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าแบบเรียลไทม์ได้
การไลฟ์สตรีมแบบสั้นๆ ครั้งนี้มีผู้ชมมากกว่า 15,000 คน ดึงดูดผู้ติดตามใหม่มากกว่า 20,000 คนให้กับบัญชีอย่างเป็นทางการของ LV มีการโต้ตอบมากกว่า 6 ล้านครั้ง แม้ว่าจะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในภายหลัง แต่ก็ช่วยให้ LV เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่อายุน้อยกว่า 30 ปีได้สำเร็จ
2. ไลฟ์สดขายสินค้าแบบเรียลไทม์ในกลุ่มปิด (Exclusive and Real-time shoppable Live Steam)
จุดเด่น:
- สร้างความสัมพันธ์ลูกค้า: สร้างห้องไลฟ์สตรีมส่วนตัวสำหรับสมาชิก เพิ่มปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่ม VIP ที่สามารถเสนอสินค้าและโปรโมชั่นพิเศษได้แบบ exclusive
- รักษาฐานลูกค้า: มอบสิทธิพิเศษและบริการที่ดี สร้างความประทับใจ รักษาความสัมพันธ์ระยะยาว
ตัวอย่างแบรนด์: GUCCI
ในช่วงที่เกิดเหตุโรคระบาดใน ปี 2020 GUCCI ได้สร้างห้องไลฟ์สดช้อปปิ้งส่วนตัวสำหรับลูกค้าที่ศูนย์บริการลูกค้าในฟลอเรนซ์ มอบบริการช้อปปิ้งแบบไลฟ์สด แบบหนึ่งต่อหนึ่งที่ลูกค้าสามารถจองล่วงหน้าได้
ในห้องไลฟ์สด ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อกับฉากการช้อปปิ้งในอิตาลีจากระยะไกล เลือกซื้อสินค้าใหม่ล่าสุดของฤดูกาลนั้น และมีพนักงานขายคอยให้คำแนะนำโดยเฉพาะ เมื่อลูกค้าถูกใจสินค้าพวกเขาสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทันทีกับพนักงานขายผ่านการไลฟ์สด
เทคนิคการไลฟ์สดของแบรนด์ GUCCI มีมาตราการ 2 ประการ เพื่อคงภาพลักษณ์ของแบรนด์แม้จะขายผ่านไลฟ์สด
ประการแรก: ลูกค้าต้องมีประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหมือนจริงที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งแตกต่างจากการไลฟ์สดทั่วไปที่อาจทำให้รู้สึกสูญเสียความหรูหรา
ประการที่สอง: ลูกค้าสามารถโต้ตอบกับพนักงานขายแบบสองทางและรักษาความเป็นส่วนตัวได้
3. ไลฟ์สดเปิดที่สามารถซื้อสินค้าได้แบบเรียลไทม์ (Open and Real-time shoppable Live Stream)
จุดเด่น:
-เพิ่มโอกาสทางการขาย: เข้าถึงกลุ่มลูกค้ากว้าง กระตุ้นยอดขายแบบเรียลไทม์
-สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สนุกสนาน: ดึงดูดผู้ชมด้วยโปรโมชั่น เกมส์ กิจกรรม กระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อ
-วิเคราะห์ข้อมูลการขายแบบเรียลไทม์: ติดตามยอดขาย สินค้าที่ได้รับความนิยม นำไปปรับกลยุทธ์การขายให้มีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างแบรนด์: ห้างสรรพสินค้า Printemps
ในปี 2021 ห้างสรรพสินค้า Printemps ซึ่งก่อตั้งมานาน 200 ปี ได้เปิดตัวช่องช้อปปิ้งแบบไลฟ์สสดชื่อว่า "Printemps en mode" โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการช้อปปิ้งหนึ่งคนและนางแบบรับหน้าที่แนะนำสินค้าในแต่ละสัปดาห์ สินค้าจากหมวดหมู่ความงามและเสื้อผ้า
ผู้ชมสามารถถามคำถามผ่านข้อความ ผู้เชี่ยวชาญด้านการช้อปปิ้งจะตอบคำถามเหล่านั้นแบบเรียลไทม์ นางแบบสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าและเครื่องประดับตามคำขอของผู้ชมได้ทันที หากผู้ชมถูกใจสินค้า พวกเขาสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทันที
การไลฟ์สตรีมแบบมีรายการนี้เปลี่ยนห้างสรรพสินค้าให้กลายเป็นสื่อแบบมีส่วนร่วม ที่แตกต่างไปจากแคตตาล็อกแบบดั้งเดิมและอีเมลแบบทางเดียวแล้ว การไลฟ์สดเป็นแพลตฟอร์มการตลาดที่โต้ตอบสองทาง ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าเท่านั้น แต่ยังสร้างรายได้เพิ่มเติมจากค่าธรรมเนียมการลงรายการสินค้าบนแพลตฟอร์มอีกด้วย ห้องไลฟ์สดแบบนี้ถือเป็น "ร้านค้าออนไลน์" ของแบรนด์ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของพนักงานออฟฟิศที่ไม่สามารถไปช้อปปิ้งที่หน้าร้านหลังเวลาเลิกงานได้
นี่แสดงให้เห็นว่าการมีส่วนร่วมสองทางทั้งผู้ซื้อและผู้ขายผ่านไลฟ์สดเพิ่มโอกาสในการขาย กลายเป็นการขายที่มีแนวโน้มที่จะยั่งยืนและมีประสิทธิภาพจากตัวอย่างแบรนด์ระดับโลกหันมาใช้ไลฟ์สดเพื่อขายสินค้า แสดงให้เห็นว่าไลฟ์สดได้กลายเป็นช่องทางการขายแบบผสมผสานที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีซึ่งรวมเอาความบันเทิง การขาย และโซเชียลมีเดียเข้าไว้ด้วยกัน
บรรณาธิการ: เฉิน เหว่ย หง
ตรวจทาน: นี มิ่น ชิน
บทความต้นฉบับ: https://www.businessweekly.com.tw/management/blog/3015260
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
วันนี้จัมโบ้มาแชร์แคปชั่นเปิดร้านแบบจอสระอึ้ง เอาใจพ่อค้าแม่ขายทำธุรกิจขายของออนไลน์ ที่ต้องเขียนแคปชั่นเปิดร้านกันอยู่ทุกวัน และต้องการไอเดียเพิ่มไปใช้เขียนแคปชั่นให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า บอกเลยว่าจัมโบ้คัดแต่แคปชั่นที่เด็ดโดนมาให้แม่ค้าแต่ละสายแล้ว เอาไปใช้กันได้เลย!
#แคปชั่นแม่ค้าสายฮา
เขียนแคปชั่นขายแบบเดิมๆมันน่าเบื่อไปแล้ว ลองมาขายขำเขียนแคปชั่นเอาเสียงหัวเราะดูอาจจะทำให้ลูกค้าแชร์ต่อและสนใจร้านค้าของเราก็ได้นะ
- ร้านนี้เขาเน้นขายขำ ไม่เน้นขายของ
- ไม่ใช่แฟนก็ซื้อแทนได้ ทักเข้ามาเลยจ้า
- พี่กระเทยบอกฉันว่าร้านฉันตอบแชทไวมาก
- กำลังใจที่ดี คือ กำลังโอนจ้า
- แม่ค้าอาจจะดูหน้าโหด แค่ช่วงนี้อยู่ในโหมดส่งฟรีนะคะ
- เปิดร้านเพื่อขายกำไร ไม่ เปิดร้านเพื่อขายขำ ใช่
#แคปชั่นแม่ค้าสายขาย
จะเขียนแคปชั่นขายทั้งทีก็ต้องเปิดร้านด้วยแคปชั่นเด็ดๆที่ลูกค้าเห็นเป็นต้องหยุดอ่านอยากซื้อแน่นอน
- รู้อะไรไม่สู้ รู้งี้สั่งตั้งนานแล้วนะ
- ตัวมารดาเขาก็ทักแชทมาอุดหนุนร้านเรากันทั้งนั้น
- อย่าพึ่งเลื่อนผ่าน ถ้ายังไม่ได้อ่านโปรเด็ดของเรา
- สวัสดีวันจันทร์ ขอออเดอร์ปังๆ หน่อยจ้า
- การรอเดียวที่เราชอบ คือรอเงินเข้าบัญชีเท่านั้น
- แคปชั่นขายของอาจไม่โดนตา แต่คุณภาพสินค้าโดนใจแน่นอน
#แคปชั่นแม่ค้าสายไลฟ์โค้ช
ใครๆก็อยากได้กำลังใจ ใช้แคปชั่นเปิดร้านโดนๆใจ มีกำลังใจทั้งคนขายทั้งคนซื้อในการใช้ชีวิตกันไปเลย
ทำในสิ่งที่รัก รักในสิ่งที่ทำ เป้าหมายอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
- เป้าหมายมีไว้พุ่งชน คำพูดคนมีไว้ผลักดัน
- ท้อได้แต่อย่าถอย ถ้าจะถอยต้องถอยป้ายแดง
- ระฆังดังเพราะคนตี อยากขายดี อย่าหยุดทำ
- แข่งกับคนอื่นทำไม แข่งกับใจตัวเองก็พอ
- ก้าวเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน จะรวมกันเป็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่
#แคปชั่นแม่ค้าสายดราม่า
เอาใจสายดึงดราม่าด้วยแคปชั่นสุดตัดพ้อ นอยด์อ่าา
- ไอติมมีละลาย แล้วทำไมไม่มีใครทักมาเลย
- ระหว่างโดนหลอกว่ารักกับโดนลูกค้าบอกว่าจะโอนเงิน อันไหนเจ็บกว่ากัน
- เอฟแล้วเทกัน ขอให้หันหลังกลับไปแล้วไม่เจอใคร
- พี่คงจะอยู่ไม่ได้แล้วถ้าหนูCFแล้วไม่โอน
- ร้านเราตอบแชตเร็วมาก แต่ไม่มีใครทักมาสักที
- เกิดมาไม่เคยรอใคร นอกจากให้ลูกค้าทักเข้ามาเนี่ยแหละ
#แคปชั่นแคปชั่นแม่ค้าสายจีบ
พ่อค้าแม่ค้าสายเต๊าะต้องถูกใจ แคปชั่นสายจีบบอกเลยให้หมดใจ
- ทักหาคนคุยแล้วเขาไม่ตอบ ลองทักมาซื้อของกับเราดูสิคะ
- เจอลูกค้าหน้าตาดี แทบอยากจะสวัสดีเป็นไอดีไลน์
- ร้านนี้ส่งฟรี ขอแค่คนดีส่งข้อความมา
- ซื้อเยอะแถมเบอร์ ซื้อเสมอแถมใจ
- ถ้าเธอชอบคนเก่ง เราขายของเก่งนะ ส่งของไวด้วย!
- แม่ค้าตอบแชตไวมาก ไม่เชื่อก็ลองทักมาดู
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
การขายออนไลน์ในปัจจุบันเป็นที่นิยมมากสำหรับผู้คนทั่วไป หลายๆคนผันตัวมาขายของออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำที่ต้องการหางานอื่นเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ที่มากขึ้นหรือบางคนที่มีงานประจำก็ลาออกเพื่อมาเป็นแม่ค้าออนไลน์เต็มตัว เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่องภาษีก็เป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นเช่นกัน แล้วจะรู้ได้อย่างไร? ว่าเราต้องยื่นภาษีตอนไหน? และยื่นกับใคร? วันนี้จัมโบ้ไลฟ์ก็หาคำตอบมาให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์แล้ว
เมื่อเราถึงจุดที่ธุรกิจเติบโตและไปได้สวยในโลกออนไลน์ ร้านค้ามากมายจะต้องเสียภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับและเรียกภาษีย้อนหลัง คนที่มีรายได้ประจำและมีเงินที่ได้จากการขายออนไลน์ต้องนำไปคำนวณรวมกับการยื่นภาษีประจำปี ซึ่งแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่ได้ยื่นจดทะเบียนธุรกิจในรูปแบบบริษัทจะต้องยื่นภาษีกับกรมสรรพากร 2 ครั้งใน 1 ปี ภาษีที่แม่ค้าออนไลน์ต้องจ่ายได้แก่
1. ภาษีบุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90/91
-ภ.ง.ด. 90 คือ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา บุคคลที่มีรายได้หลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นขายของออนไลน์หรือว่ารายได้จากช่องทางอื่นๆ จะต้องยื่นแบบภายในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. ของทุกปี
-ภ.ง.ด. 91 คือ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีรายได้ที่ได้จากการงานประจำอย่างเดียว จะต้องยื่นภายในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.ของทุกปี
อธิบายง่ายๆ ภาษี ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ประเภทภาษีทั้ง2เป็นภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาเหมือนกัน แต่ในกรณีที่เป็นพนักงานประจำมีเงินเดือนเข้าทุกเดือนที่มีรายได้แค่เงินเดือนเท่านั้นจะต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 91 แต่ถ้าพนักงานที่มีรายได้ประจำมีรายได้จากแหล่งอื่นไม่ว่าจะขายออนไลน์ เงินปัญผลทุกปี หรือรายได้ที่หามาจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่แค่งานประจำให้ยื่นเป็น ภ.ง.ด. 90
แม่ค้าออนไลน์ต้องมีรายได้เท่าไหร่จึงจะต้องจ่ายภาษี?
รายได้สุทธิ : ภาษีที่ต้องจ่าย
0 – 150,000 : *ได้รับการยกเว้นภาษี*
150,001 – 300,000 : 5%
300,001 – 500,000 : 10%
500,001 – 750,000 : 15%
750,001 – 1,000,000 : 20%
1,000,001 – 2,000,000 : 25%
2,000,001 – 5,000,000 : 30%
5,000,001 บาทขึ้นไป : 35%
พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถส่งเอกสารยื่นภาษีกับทางกรมสรรพากร หรือยื่นสามารถยื่นภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.rd.go.th นี้เท่านั้น
เห็นแบบนี้แล้วทุกคนที่มีรายได้หลากหลายช่องทาง หรือทางเดียวคนที่เปิดร้านค้าออนไลน์ ร้านเติบโตมากขึ้น แม่ค้าออนไลน์ทุกคนอย่าลืมไปยื่นภาษีกันนะจะได้ไม่เสียค่าปรับและถูกเรียกภาษีย้อนหลังกันนะคะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ทางจัมโบ้ไลฟ์เป็นกำลังใจและสนับสนุนแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ทุกคนค่ะ
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
เดี๋ยวนี้จะขายของออนไบน์บอกเลยว่าการโพสต์คอนเทนต์ลงหน้าโซเชียลมีเดียสำคัญ เพราะอย่างนั้นวันนี้ JamboLive มาแชร์ 5 แอพตัวช่วยพ่อค้าแม่ขาย ไว้ใช้ทำและปรับแต่งคอนเทนต์รูปภาพและวิดีโอที่บอกเลยว่าใช้แล้วปังแน่!!
1. Pinterest
แอปนี้ใช้หา inspiration การทำโปสเตอร์ มุมกล้องการถ่ายรูป เพื่อหาแรงบัลดาลใจในการทำโปสเตอร์และอะไรที่มีความครีเอทีฟเพื่อทำการโปรโมทร้านค้าของเรา เราสามารถใช้คีย์เวิร์ดเพื่อค้นหารูปสินค้าหรือโปสเตอร์ที่ใช้ขายอะไรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา
2. Canva
ใช้สำหรับใส่ฟอนต์ จัดแต่งหน้ากระดาษทำโปสเตอร์ขายสินค้า และจัดโปรโมชั่นสุดปังง่ายๆ เวอร์ชั่นฟรีไม่เสียเงินก็มีฟีเจอร์ครบครันพร้อมสรรค์สร้างความcreativeได้เลย!
3. Lightroom
เป็นหนึ่งในแอปแต่งรูปที่มีฟีเจอร์เยอะแต่งง่าย ปรับแสง สีสัน คุมโทนสวยๆถูกใจแบบไม่ซับซ้อน แถมที่สำคัญที่สุดเลยคือมันคือฟรี!
4. Phonto
ใส่ฟ้อนต์สวยๆได้หลายแนว หลายสไตล์ เอาใจพ่อค้าแม่ขายสายแต่งรูปใส่ฟอนต์ ใส่ราคา หรือชื่อสินค้าลงในรูปที่โพสต์ขาย เพิ่มความสวยงามให้กับโพสต์ขายสินค้า
5. Capcut
เดี๋ยวนี้พูดได้เลยว่าการทำคอนเทนต์แบบวิดีโอสั้นก็สำคัญ ถ้าอยากตัดต่อวิดีโอง่ายๆมีทั้งตกแต่งสติ้กเกอร์ใส่ฟอนต์ ใส่เพลง ตัดลำดับวิดีโอให้น่าสนใจโพสต์บนหน้าโซเชียลมีเดีย แอปนี้ตอบโจทย์สุดๆ
5 แอพนี้สายฟรีทั้งหมดที่แนะนำมาคือบอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ จะใช้แล้วทำคอนเทนต์สุดปังโพสต์ลงหน้าโซเชียลหรือจัดโปรโมชั่นก็บอกเลยว่าสามารถทำได้ง่ายสุดๆ
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
การจัดโปรโมชั่น คือ การที่ธุรกิจทำกิจกรรมโปรโมทต่างๆเพื่อสร้างภาพลักษณ์ ทำให้เป็นที่รู้จัก หรือเพิ่มยอดขาย ผ่านช่องทางโปรโมทต่างๆ ซึ่งช่องทางที่ใช้ต้นทุนน้อยที่สุดและเข้าถึงลูกค้าหลายกลุ่มก็เป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก โซเชียลมีเดีย นั่นเอง
วันนี้ JamboLive นำข้อมูลดีๆที่อ้างอิงมาจาก Digital 2024: Thailand We Are Social & Meltwater เกี่ยวกับปัจจัยการตัดสินใจของคนไทยเมื่อเลือกซื้อของ ซึ่งเป็นข้อมูลที่คุณพ่อค้าแม่ค้าสามารถนำไปปรับใช้ในการวางแผนว่าควรจัดโปรโมชั่นแบบไหนเพื่อให้ถูกใจลูกค้า ดันยอดขายให้ปังกันค่ะ
1.คูปองส่วนลด
คูปองและส่วนลดเป็นหนึ่งในสิ่งกระตุ้นที่ทำให้คนสนใจที่จะซื้อของในร้านค้าออนไลน์ของเรา อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่เพิ่มโอกาสที่ทำให้เป็นลูกค้าประจำที่กลับมาซื้อสินค้าที่ร้านเราซ้ำๆได้อีกด้วย
2.จัดส่งฟรี
การจัดส่งฟรีทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าจ่ายครั้งเดียวจบในสินค้า และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติมทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าคุ้มราคาที่ได้สินค้าไปในแบบที่ไม่ต้องจ่ายค่าขนส่ง
3.เก็บเงินปลายทาง
ไม่ต้องจ่ายเงินก่อนของมาถึงมือเป็นอะไรที่ทำให้ลูกค้าสบายใจแถมยังดีกับร้านค้าเพราะเป็นอะไรที่เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสั่งของง่ายมากยิ่งขึ้นเพราะลูกค้ายังไม่ต้องชำระเงินตั้งแต่การสั่งซื้อสินค้า
4.นโยบายการคืนสินค้า
นี่คือหนึ่งในอีกสิ่งที่ทำให้ลูกค้าสบายใจมากขึ้น เมื่อมีการสั่งสินค้า หากเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันเช่น สินค้าเสียหายหรือไม่สามารถใช้งานได้ ก็สามารถคืนสินค้าชิ้นนั้นๆคืนไปที่ร้านค้าเพื่อรับสินค้าชิ้นใหม่ได้ เมื่อลูกค้ามีความสบายใจในการที่จะสั่งซื้อสินค้าก็เพิ่มโอกาสในการสั่งซื้อมากขึ้น
5.รีวิวจากผู้ใช้งานจริง
จะซื้อของเดี๋ยวนี้ลูกค้าไม่ได้ดูแค้ตัวสินค้าและโปรโมชั่นเพียงเท่านั้นแต่ลูกค้าสมัยนี้สนใจไปถึงเสียงรอบข้างที่พูดถึงตัวแบรนด์และสินค้าชิ้นนั้นๆเป็นตัวเสริมความมั่นใจในสินค้าและบริการที่คุณพ่อค้าแม่ค้าขาย การนำรีวิวลูกค้าท่านอื่นๆมาปรับใช้ในการทำโพสต์หรือวิดีโอเพื่อใช้โปรโมทผ่านการยิงแอดหรือลงไว้เพื่อให้ลูกค้าคนใหม่ๆเข้ามาดูก็เป็นวิธีที่ดีที่จะเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า
ตัวอย่างการจัดโปรโมชั่น
คูปองส่วนลด
1. ซื้อครบ 500 รับคูปองส่วนลด 100 บาทสำหรับการซื้อครั้งหน้า
2. แจกคูปองส่วนลด 50 บาท เพียงกดแชร์ไลฟ์สดนี้!
3. ซื้อ 3 รับส่วนลด 300 บาท!
4. ซื้อชิ้นถัดไปลด 50%
5. แจกคูปองซื้อสามจ่ายสอง เมื่อซื้อครบ 2000 บาท
จัดส่งฟรี
1. ซื้อเดรสสองตัว จัดส่งฟรี
2. โปรโมชั่นต้อนรับสงกรานต์ จัดส่งฟรีทั้งร้าน
3. ซื้อครบ 1000 บาท จัดส่งฟรี
4. ซื้อมันหนึบครบ 10 ถุง จัดส่งฟรี
5. เปิดเพจใหม่ จัดส่งฟรี วันนี้เท่านั้น!
เก็บเงินปลายทาง
1. ลูกค้าเก่ามีเก็บเงินปลายทางทุกออเดอร์
2. ซื้อครบ 500 มีเก็บเงินปลายทาง
3. ซื้อกางเกง 5 ตัวมีเก็บเงินปลายทางฟรี
4. มีเก็บเงินปลายทางเมื่อแชร์ไลฟ์สดนี้
5. ต้อนรับปีใหม่เก็บเงินปลายทางฟรี
นโยบายการคืนสินค้า
1. ซื้อไปใส่ไม่ได้ รับคืนสินค้าภายใน 3 วัน
2. กรณีสินค้าเสียหายสามารถส่งคืนทางร้านได้
3. สินค้ามีตำหนิส่งคืนได้ภายใน 3 วัน
ทำแคมเปญจากรีวิวจากผู้ใช้งานจริง
1. พิมพ์รีวิวหน้าเพจ รับรางวัลส่งฟรีทั้งร้าน
2. ใช้รีวิวจากลูกค้ามาทำโพสต์ วิดีโอ พูดเกี่ยวกับสินค้า/ บริการของเรา
3. พิมพ์รีวิวใต้โพสต์บอกความรู้สึกที่ใช้สินค้าของเรา
เป็นยังไงกันบ้างคะกับปัจจัยการตัดสินใจซื้อของลูกค้าพร้อมกับตัวอย่างการจัดโปรโมชั่น หวังว่าคุณพ่อค้าแม่ขายจะสามารถนำไปปรับใช้จัดโปรโมชั่นเด็ดสุดปังกันได้นะคะ
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://jambolive.tv/th/
โทร: 095-174-4436
อ่าน Report ฉบับเต็มได้ที่ https://datareportal.com/reports/digital-2024-thailand
ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าบางธุรกิจอยู่ได้ด้วยฐานลูกค้าเก่าที่ยังคอยใช้บริการอยู่อย่างสม่ำเสมอ และธุรกิจเหล่านั้นก็คอยเติมลูกค้าใหม่อยู่ตลอด แต่สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจของเรานั้นอยู่รอดและประหยัดต้นทุนของบริษัทที่สุด นั่นคือการรักษาลูกค้าเก่าให้ยังอยู่กับเรา! จะดีกว่าไหมถ้าเรามีกลยุทธ์ในการรักษาฐานลูกค้าของเราให้อยู่ได้นาน วันนี้จัมโบ้ไลฟ์มาแชร์ 5 กลยุทธ์ มัดใจรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำ
1. ทำความรู้จักลูกค้าให้มากขึ้น
การเก็บข้อมูลรายละเอียดเล็กๆน้อยของลูกค้าเป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม เราต้อง
รู้จักและแยกประเภทของลูกค้าของเรา ว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มที่เรามีควรอยู่ประเภทไหน ก่อนที่จะแยกประเภทว่าลูกค้ากลุ่มไหนคือลูกค้าขาจร กลุ่มไหนคือลูกค้าขาประจำ
-ลูกค้าที่นานๆกลับมาซื้อสินค้า แต่ยอดการสั่งสินค้าจำนวนสูงๆ
-ลูกค้าซื้อเป็นประจำแต่ว่ายอดในการสั่งซื้อไม่สูงมากนัก
-ลูกค้าที่แนะนำบอกต่อลูกค้าคนอื่นให้มาใช้บริการร้านค้า
ลูกค้าประเภทนี้เราควรที่จะต้องรักษาและใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อที่ลูกค้าจะอยู่กับเราไปนานๆ ในส่วนลูกค้าที่ยังไม่เข้าเกณฑ์ เราสามารถค่อยๆใช้กลยุทธ์อื่นๆเพื่อที่จะมัดใจลูกค้าขาจรใหม่ๆมาเป็นขาประจำ
2. ใส่ใจลูกค้าด้วยการให้สิทธิพิเศษเพื่อรักษาฐานลูกค้า
ให้โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า หรือลูกค้า VIP คนโปรดโดยเฉพาะ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและให้ความสำคัญกับลูกค้าเจ้าประจำ เป็นการดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าและใช้บริการซ้ำๆ เช่น ให้ราคาพิเศษกับลูกค้า VIP โดยเฉพาะ การให้คูปองส่วนลด การสะสมแต้ม การลด แลก แจก แถม และ เสนอโปรโมชั่นโดนๆ นอกจากเราจะรักษาฐานลูกค้าเก่าได้แล้วยังเป็นการดึงดูดลูกค้าใหม่เข้ามาอีกด้วย
3. ติดต่อสอบถามให้คำปรึกษาลูกค้าเก่าอยู่เสมอ
การติดต่อสอบถามและให้คำปรึกษา เป็นวิธีสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้าจำสินค้าและบริการได้อยู่เสมอ เมื่อลูกค้าต้องการกลับมาซื้อสินค้าซ้ำลูกค้าก็จะนึกถึงเราเป็นคนแรก
4. เก็บข้อมูลและสถิติในการซื้อสินค้าของลูกค้า
เราควรที่จะต้องรู้จักพฤติกรรมของลูกค้า อย่างน้อยเราควรจะต้องรู้ว่าฐานลูกค้าของเราอยู่ในช่วงวัยไหน และประเภทสินค้าที่ขายเป็นสินค้าประเภทอะไร การวิเคราะห์ลูกค้าและเก็บข้อมูลกการซื้อสินค้า จะทำให้เราสามารถวางกลยุทธ์ในการรักษาฐานลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
5.รักษาฐานลูกค้าเก่าด้วย Jambo VIP
นอกจากระบบดูดออเดอร์และจัดการสินค้าของทางจัมโบ้ไลฟ์แล้ว ทางจัมโบ้ไลฟ์มีเครื่องมือ Jambo VIP ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เหมาะกับการรักษาฐานลูกค้าเก่าเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการให้สิทธิพิเศษในวันเกิดสำหรับลูกค้าเก่า ตั้งค่าให้ราคาพิเศษกับลูกค้า VIP โดยเฉพาะก็สามารถทำได้ เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจและดึงดูดให้ลูกค้าใช้บริการเราบ่อยขึ้น
เป็นยังไงบ้างคะ 5 กลยุทธ์ มัดใจรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำที่ทางจัมโบ้ไลฟ์สรุปมาให้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับพ่อค้าแม่ขายทุกคน และสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจกันได้นะคะ!
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
อยากเริ่มธุรกิจขายออนไลน์ กำลังหาข้อมูลเพราะไม่รู้จะขายอะไรดี วันนี้ JamboLive มาแชร์เทรนด์สินค้าที่กำลังมาแรงในปี 2024 ให้คุณพ่อค้าและแม่ค้า ได้มีไอเดียสำหรับเอามาขายผ่านช่องทางออนไลน์กันค่ะ
1. เทรนด์รักสุขภาพ
ในปีที่ผ่านมาเทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง สืบเนื่องจากช่วง COVID-19 ผู้คนเริ่มสนใจในการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น เพราะอย่างนั้นการนำเทรนด์รักสุขภาพ มาปรับใช้ในการเลือกซื้อสินค้าสำหรับใช้ขายเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ตัวอย่างเช่น เค้กคลีนไร้แป้ง บราวนี่ไร้กลูเตน มันหนึบไร้แป้งไร้น้ำตาล เป็นต้น
2. เทรนด์มูเตลู เสริมศิริมงคล
การมูกับคนไทยคือของคู่กัน โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา เป็นยุคที่ผู้คนต้องการที่พึ่งทางใจ สินค้าเสริมดวงจึงเป็นสินค้าที่ขายดีและสามารถต่อยอดได้ในธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ประยุกต์สีมงคลกับสินค้าที่เราต้องการที่จะขาย, เครื่องประดับมงคล, วัตถุมงคล, เลขมงคล เป็นต้น
3. เทรนด์สินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
Pet parent เลี้ยงสัตว์เหมือนลูก เป็นเทรนด์ที่บูมและโตถึง 6.6 หมื่นล้านต่อปี สินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สินค้าและบริการที่กำลังมาที่ราสามารถนำมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในสิ่งที่เรานำมาขายในธุรกิจออนไลน์ของเราได้เหมือนกัน
4. เทรนด์ผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายนี้เป็นกลุ่มที่มองข้ามไม่ได้เลย เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อแล้วมีเวลาซื้อมากที่สุด สินค้าที่อยู่ในเทรนด์ผู้สูงอายุได้แก่ อาหารเสริม, ผลิตภัณฑ์ชะลอวัย, อุปกรณ์ช่วยเหลือทางกายภาพเช่น อุปกรณ์ช่วยเดิน เป็นต้น
5. เทรนด์รักษ์โลก
เทรนด์ผู้บริโภคสายกรีน เทรนด์พฤติกรรมที่แสดงออกถึงการใส่ใจต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกสืบเนื่องจากสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนไป ผู้ซื้อไม่เพียงสนใจแค่คุณภาพหรือตัวสินค้าเพียงเท่านั้นแต่สนใจว่าส่วนผสมหรือขบวนการการผลิตเป็นอย่างไร ตัวอย่างสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม, ผลิตภัณฑ์ที่มีแพ็กเกจจิ้งที่สามารถย่อยสลายง่าย เป็นต้น
5 เทรนด์สินค้ามาแรงนี้สามารถนำมาเป็นสินค้าตัวเลือกเพื่อขายหรือปรับใช้ขยายไลน์สินค้าเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อค้า แม่ค้าทุกคนนะคะ
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
ไลฟ์สดขายของเพราะอยากมีรายได้เพิ่ม แต่กลับมีแต่ทุนจม ไม่มีกำไรซักที วันนี้จัมโบ้ไลฟ์มาแชร์ 3 ข้อผิดพลาดที่ไม่ควรทำเมื่อไลฟ์สดขายของ!
3 ข้อผิดพลาดหลักๆ
1. ลงทุนกับอุปกรณ์ที่ราคาสูงจนเกินเหตุจำเป็น
2. การทำตามสคริปต์มากเกินไป
3. ไม่สวยไม่หล่อไม่กล้าไลฟ์
การลงทุนเยอะเพื่อธุรกิจไลฟ์สด ไม่เท่ากับ จะประสบความสำเร็จเสมอไป ลงทุนเป็นล้านในการสร้างสถานที่เพื่อไลฟ์สด, เช่าสตูดิโอถ่ายภาพ จ้างพนักงานขายที่มีหน้าตาที่ดี แต่ก็ยังมีคนดูน้อย และขายได้ไม่กี่บ้านนั่นอาจจะเป็นเพราะ "คุณกำหนดเป้าหมายผิดทาง" การทำธุรกิจไลฟ์สดขายของมีความเฉพาะตัวของมันเอง การเข้าใจและใช้วิธีการคิดของธุรกิจไลฟ์สด ด้วยลักษณะการขายทางออฟไลน์หรือออนไลน์แบบเดิมๆอาจจะไม่สามารถเอามาใช้กับการไลฟ์สดขายได้
ดังนั้นในการทำธุรกิจไลฟ์สดขายของสำหรับร้านค้าออนไลน์ มี 3 ข้อผิดพลาด ถ้าไม่ระวังอาจจะทุนจมไม่รู้ตัวค่ะ
ข้อผิดพลาดที่ 1: ลงทุนกับอุปกรณ์ที่ราคาสูงจนเกินเหตุจำเป็น
เพราะอยากให้ทุกอย่างออกมาดี เราเลยคิดว่าควรใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุด การตั้งไฟที่เป๊ะที่สุด มุมกล้องแบบพิเศษที่สุด เพื่อที่จะทำให้ไลฟ์สดของเราออกมาเพอร์เฟคที่สุด เพื่อให้คนดูอยากดูต่อและสนใจ แต่ที่จริงแล้วการไลฟ์สดขายของไม่จำเป็นต้องใช้อะไรมากไปเลย สิ่งที่เราต้องโฟกัสและให้ความสำคัญคือการจัดบรรยากาศให้สอดคล้องกับสินค้าที่เราขายต่างหาก!
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราไลฟ์ขายส่งในจำนวนมากๆ เราสามารถจัดฉากข้างหลังโดยการไปไลฟ์ขายในโกดังของเรา หรือแม้แต่กระทั่งการขายในบ้านง่ายๆแค่นำสินค้าที่เราขายมาวางโชว์บนโต๊ะเราตอนไลฟ์ ก็พอสำหรับการไลฟ์สดแล้ว หรือถ้าอยากตกแต่งเพิ่มเติมก็สามารถซื้อฉากสำหรับใช้ไลฟ์สดได้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการสร้างห้องทั้งห้องหรือจัดทั้งสตูดิโอเพื่อใช้เป็นฉากหลังการไลฟ์สด
ข้อผิดพลาดที่ 2: การทำตามสคริปต์มากเกินไป
สิ่งที่สำคัญในการขายของแบบไลฟ์สดไม่ใช่การทำให้ทุกอย่างดูเพอร์เฟกต์และเป๊ะตามคิวที่วางไว้แต่ต้องรู้จักไหลและปรับเปลี่ยนสถานการณ์ ในตอนนั้นๆเมื่อมีอะไรที่นอกเหนือจากแผนการที่วางไว้
การที่เราไลฟ์สดขายของโดยตามสคริปต์เกินไปแบบไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นในไลฟ์อาจจะทำให้ไลฟ์สดนั้นสูญเสียเสน่ห์ของการขายของแบบไลฟ์สดไปได้ ซึ่งนั่นก็คือความสมจริงหรือความ real ของการขายของแบบไลฟ์สด
การตอบโต้สื่อสารแบบทันทีทันใด และไหลไปตามบรรยากาศและสถานการณ์ของไลฟ์สดเป็นเสน่ห์ที่การขายอย่างอื่นไม่มี การวางแผนและการมีสคริปต์ล่วงหน้าเป็นเรื่องที่ดี แต่เราควรดูการกำหนดลำดับขายสินค้าขึ้นอยู่กับการตอบสนองของลูกค้าในไลฟ์สดนั้นๆด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าสินค้าบางชิ้นขายดี ก็ควรขยายเวลาในการขายต่อ แต่ถ้าขายไม่ดี ก็ควรพิจารณาว่าสามารถให้ส่วนลดได้มากขึ้นไหม และถ้าการขายยังไม่ดี ก็ควรพิจารณาว่าควรหยุดไหม หรือควรให้ส่วนลดตอนไหน และไปขายชิ้นถัดไปตามแผนที่วางไว้
ข้อผิดพลาดที่ 3 : ไม่สวยไม่หล่อไม่กล้าไลฟ์
อย่าคิดว่าการไลฟ์สดขายด้วยหน้าตาที่หล่อหรือสวยจะทำให้ขายดีได้เสมอไป การที่ผู้ไลฟ์มีหน้าตาที่ดีสามารถดึงดูดคนดูได้ในตอนแรก แต่เพื่อทำให้ลูกค้ายังอยากดูต่อ นั้นขึ้นอยู่กับการดึงความสนใจและกระตุ้นการมีส่วนร่วมได้ดีขณะไลฟ์สดต่างหาก จะสวยหล่อแค่ไหนถ้าไม่รู้จักวิธีการตอบโต้สื่อสารในตอนไลฟ์คนดูก็อาจจะไม่รู้สึกอยากดูต่อ ดังนั้นเราควรเรียนรู้การตอบโต้เพื่อทำให้การไลฟ์สดเป็นไปได้อย่างลื่นไหล
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วหวังว่าคุณพ่อค้าแม่ค้าจะสามารถป้องกัน 3 ข้อผิดพลาดนี้ไม่ให้เกิดขึ้นได้นะคะ!
สนใจระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ ทักเลย!
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
จะไลฟ์สดขายของทั้งที จัมโบ้มี 3 เทคนิคดีๆมาแชร์ให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เพื่อนำไปปรับใช้เพื่อสร้างยอดขายให้กับร้านค้าออนไลน์กันค่ะ !
1. ทำการตลาดผ่าน Social media
ช่องทางการโปรโมท:
การทำการตลาดด้วย Social media เพื่อเป็นตัวช่วยในการโปรโมทร้านค้า, แบรนด์, ไลฟ์สด ของเรา เป็นวิธีที่ใช้เงินทุนน้อยแต่มีโอกาสให้ผลตอบรับสูง การทำคอนเทนต์เพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายหรือ การยิงโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นวิธีที่ดีที่จะใช้หาฐานลูกค้าในระยะเวลาแรกเริ่มขายและยังไม่มีเงินทุนมากนัก การยิงโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กในช่วงเริ่มต้นถือเป็นวิธีที่คนใช้กันบ่อย แต่เราก็ต้องหาช่องทาง Social media อื่นๆ เช่น Instagram, TikTok, LINE, YouTube และอื่นๆในการดึงกลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกันโดยคำนึงถึงแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายของเราใช้
คอนเทนต์แบบไหน?:
เริ่มจากค้นหากลุ่มเป้าหมาย
ก่อนเราจะขายอะไรเราต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าของเราเป็นใคร การศึกษา สำรวจและค้นคว้า ว่าลูกค้าของเราเป็นใครและสนใจคอนเทนต์แบบไหน จะทำให้เราสามารถปรับคอนเทนต์ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายของเราได้
การทำคอนเทนต์เพื่อการโปรโมทร้านค้าออนไลน์ของเรานั้นควรจะต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ดีเพื่อที่จะสื่อสารผ่านตัวคอนเทนต์ที่เราลงได้อย่างที่เราต้องการ และให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายของเรา ในปัจจุบัน วิธีการดึงกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุดคือ วิดีโอสั้น หรือ Reels ที่เข้าถึงคนหลายกลุ่มและเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก
สิ่งที่ควรระวัง:
การใช้แพลตฟอร์มต่างๆในการโปรโมทร้านค้าออนไลน์ของเราจำเป็นที่จะต้องศึกษากฎหรือข้อบังคับใช้ต่างๆเพื่อทำให้การใช้งานและโฆษณาเป็นไปได้อย่างราบรื่น
2. สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์
นี่คือวิธีการ เปลี่ยนขาจรให้เป็นขาประจำ ให้กับร้านค้าออนไลน์ของเรา การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ทำให้คนอยากซื้อของเรา ไม่ใช่แค่เพียงเพราะ ”สินค้าที่เราขาย” แต่เพราะ ”เราเป็นคนขายสินค้า” มันคือการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และดึงคนใหม่ๆเข้ามาติดตามเราจากคอนเทนต์ที่เราลง ทำให้คนเหล่านั้นมีโอกาสกลายมาเป็นลูกค้า เราอาจจะไม่ต้องทำคอนเทนต์เกี่ยวกับสิ่งที่เราขายแต่ทำคอนเทนต์ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวหรืออะไรที่เป็นที่น่าสนใจของกลุ่มเป้าหมายของเราได้ นอกจากนี้การที่มีคนเข้ามาติดตามเพจ หรือ ติดตามทางโซเชียลมีเดียที่มากขึ้นจากการทำคอนเทนต์ ก็มีโอกาสเพิ่มการมองเห็นโพสต์ที่เกี่ยวกับการขายหรือ จัดโปรโมชั่นของร้านค้าของเราได้มากขึ้นอีกด้วย
3. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
การใช้เครื่องมือช่วยประกอบในการวิเคราะห์ข้อมูล Insight ต่างๆเกี่ยวกับงานขายให้เป็น สามารถช่วยประหยัดเวลาและทำให้การวางแผนได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลการขายแบบครบครัน Jambo Analytic สามารถทำได้ตั้งแต่
• วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของแต่ละไลฟ์ เช่น ฐานคนดูโดยเฉลี่ย และเวลาที่มีคนดูมากที่สุด
• สรุปยอดขายทั้งหมด
• สรุปอัตราการชำระเงิน
• จำนวนบิลของแต่ละบ้าน
• คำนวณต้นทุน-กำไร
• สินค้าขายดี
• และเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆอีกเพียบ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 3 เทคนิคการไลฟ์สดขายของสร้างยอดขายให้ปัง มือใหม่ก็เอาไปปรับใช้ได้!
สนใจระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ ทักเลย!
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
ไลฟ์สดขายของในติ๊กต็อกกำลังมาแรงสุดๆในตอนนี้ เพราะไม่ว่าจะมือใหม่หัดขายแค่ไหนก็มีโอกาสที่ร้านค้าจะได้เติบโตจาก algorithm ของแอป Tiktok แต่จะไลฟ์ขายแต่ไม่อยากเสียค่า GP ก็ต้องมีระบบดูดและจัดการร้านค้าออนไลน์ที่เก็บออเดอร์แบบไม่มีหัก GP ที่จะเข้ามาช่วยทำให้การขายราบรื่นตั้งแต่การสร้างรหัสสินค้า เก็บออเดอร์ จนถึงการแพ็กของส่งจนให้ถึงมือลูกค้า
วันนี้จัมโบ้มาแชร์ 5 ข้อดีของระบบดูดไลฟ์ Tiktok กันค่ะ!
1. ไม่หักGP ไม่มีค่านายหน้า
การใช้ระบบดูดไลฟ์ Tiktok คุณแม่ค้าพ่อค้าสามารถขายแบบไม่มีหักค่านายหน้า เพราะลูกค้าสามารถซื้อของจากร้านค้าและชำระเงินโดยตรงกับร้านค้าออนไลน์ของเราได้เลย
2. ไม่ต้องรอถอนเงิน เงินทุนไม่จม
เพราะหลังจากลูกค้า CF สินค้าผ่านไลฟ์แล้วลูกค้าสามารถชำระเงินกับร้านค้าได้โดยโดยตรง หมดกังวลปัญหาถอนเงินไม่ได้ ยอดขายเข้ารัวๆ
3. จัดการสินค้าและสต๊อกง่าย
การใช้ระบบดูดไม้ต้องมีการรอสินค้าอนุมัติก่อนขาย แต่สามารถเริ่มไลฟ์ขายได้เลยเมื่อสร้างรหัสสินค้าและลงสต๊อกเสร็จ
4. สามารถใช้สต๊อกเดียวกับการขายช่องทางอื่นๆได้
การใช้ระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์แบบของ JamboLive นั้นร้านค้าออนไลน์สามารถใช้สต๊อกสินค้าเดียวกับการขายในช่องทางอื่นๆโดยไม่ต้องมาลงสินค้าใหม่ให้เสียเวลา
5. ไลฟ์สดขายหลายแพลตฟอร์มในเวลาเดียวกัน
นอกจากจะสามารถเชื่อมสต๊อกเดียวเพื่อขายหลายแพลตฟอร์มได้แล้ว ร้านค้าออนไลน์ยังสมารถไลฟ์ขายพร้อมๆกันหลายแพลฟอร์มได้อีกด้วย เป็นการดีที่จะขยายการขายแบบหลายช่องทางเพื่อเข้าถึงกลุ่มลุกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
6. ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วจากทีมSupport
เมื่อเกิดปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือใดๆในตอนไลฟ์ ร้านค้าออนไลน์สามารถติดต่อกับทางSupport ได้โดยตรงเพื่อรับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทันใจ
ระบบดูดไลฟ์ Tiktok เหมาะกับใคร?
1. เหมาะกับร้านค้าออนไลน์ที่ไลฟ์สดขายของทุกชนิดบน Tiktok
2. เหมาะกับออนไลน์ที่ต้องการไลฟ์สดขายหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน Tiktok, Facebook, Instagram
3. เหมาะกับร้านค้าที่ต้องการทำให้การจัดสต๊อกเป็นเรื่องง่าย
4. เหมาะกับร้านค้าที่มีออเดอร์เยอะและต้องการระบบที่ช่วยจัดการเก็บออเดอร์และจัดการหลังบ้านให้เป็นระบบระเบียบ
5.เหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการคำปรึกษาและซัพพอร์ต
สนใจระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ ทักเลย!
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
ในปัจจุบันนี้หันไปทางไหนก็เจอแต่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ออกมาเริ่มต้นขายของออนไลน์กันมากขึ้น คู่แข่งทางการค้าก็เต็มไปหมดนั่นหมายความว่าลูกค้ามีตัวเลือกในการซื้อสินค้าเยอะขึ้นตามไปด้วย เพราะฉะนั้นการรู้จักเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ยอดขายเพื่อวางแผนกลยุทธ์ ถ้าแม่ค้าพ่อค้าอยากจะขายของให้ปังต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากรายงานการขายให้เป็น วันนี้ทางจัมโบ้ไลฟ์จะมาบอกประโยชน์ของฟีเจอร์ Jambo Analytics ระบบวิเคราะห์ข้อมูลการขายเรียลไทม์ของจัมโบ้ไลฟ์ ที่จะช่วยให้ร้านของคุณเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
ขายของออนไลน์ให้ปังต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากรายงานการขายให้เป็น
แดชบอร์ดรายงานการขาย รายงานที่สรุปการขายสินค้าของคุณ ขายอะไรไปบ้าง ราคาเท่าไร รวมเป็นเงินทั้งหมดเท่าไร เพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อได้ว่า ควรจะโฟกัสการขายสินค้าประเภทไหนดี แม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ควรเข้ามาดูรายงานการขายอย่างสม่ำเสมอเพื่อวางกลยุทธ์ในการขายออนไลน์ให้ปัง
แดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูล รายงานสรุปยอดขายทั้งหมดของคุณเพื่อให้คุณสามารถวิเคราะห์สรุปความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งคุณสามารถดูและนำมาปรับกลยุทธ์และสร้างยอดขายได้ เช่น นำไปจัดกิจกรรมโปรโมชั่นต่างๆหรือแจกส่วนลดเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าของคุณ เป็นต้น
นอกจากระบบดูดสินค้าค้าบนแฟลตฟอร์มต่างๆแล้วทางจัมโบ้ไลฟ์ก็มีฟีเจอร์ Jambo Analytics ระบบวิเคราะห์เรียลไทม์ ของจัมโบ้ไลฟ์จะช่วยให้คุณวิเคราะห์สถานการณ์การขาย อัตราการซื้อของลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า และมีรายงานสรุปยอดให้กับคุณตลอดเวลาในหน้าข้อมูลแดชบอร์ดรายงานการขาย และ แดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูล คุณสามารถดูยอดขายรายวันและรายเดือนได้ ถ้าคุณรู้จักวิเคราะห์และใช้ประโยชน์จาก “รายงานยอดขาย” อย่างเต็มที่ อาจช่วยให้คุณวางกลยุทธ์การขายได้ดียิ่งขึ้น
ตัวช่วยวิเคราะห์ข้อมูล Jambo Analytics ของจัมโบ้ไลฟ์ เป็นฟีเจอร์ที่มาเป็นตัวช่วยวิเคราะห์ข้อมูลรายงานการขาย ความต้องการของตลาดลูกค้าของคุณเพื่อนำมาวางแผนปรับกลยุทธ์ในการขายสินค้าและนำข้อมูลไปใช้วิเคราะห์เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาดและพัฒนาร้านค้าของคุณให้เติบโตขึ้นได้อย่างแน่นอน
สนใจระบบดูดออเดอร์และจัดการร้านค้าออนไลน์ ทักเลย!
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
Loyalty Program คือ หมัดฮุก กลยุทธ์เด็ดใช้มัดใจลูกค้าเก่าและใหม่ ที่เข้ามาซื้อของหรือใช้บริการในธุรกิจของเราให้กลับมาซื้อซ้ำ การปรับใช้ Loyalty Program กับธุรกิจและร้านค้าของเราเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะไม่ว่าธุรกิจจะเป็นขนาดไหน อนาคตของธุรกิจจะไม่ยืนยาวเลยถ้าหากลูกค้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการเพียงครั้งเดียวและไม่กลับมาซื้อซ้ำอีก ดังนั้นการรักษาสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อให้กลับมาเป็นลูกค้าประจำจึงเป็นแผนธุรกิจที่ยืนยาวและทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ้าเราสังเกตชีวิตประจำวันของเราเวลาไปซื้อของหรือใช้บริการแบรนด์ต่างๆ Loyalty Program เป็นอะไรที่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดเพราะเป็นโปรแกรมที่ธุรกิจประเภทต่าง ๆ หันมาใช้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะขนาดเล็กกลางใหญ่ เพราะอย่างนั้นพ่อค้าแม่ค้าคนไหนที่ยังไม่เอา Loyalty Program มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจถือว่าเสียโอกาสในการรักษาลูกค้าไปอย่างมาก
Loyalty Program มีหลากหลายประเภท ถ้าอยากรู้ว่าร้านค้าออนไลน์ของเราเหมาะกับไหนเหมาะกับ Loyalty Program ประเภทไหนก็มาดูกันเลย!
ทดลองใช้ Loyalty Program ในระบบ JamboLive ฟรี!!
#JamboLiveจะขายจะไลฟ์ก็เป็นเรื่องง่าย
1. การแบ่งระดับขั้น หรือ Tier VIP
ระดับสมาชิกหรือ Tier VIP คือการแบ่งระดับขั้นสำหรับลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าจากร้านของเรามาแล้ว สิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจะแตกต่างกันตามระดับขั้นที่ร้านค้ากำหนด การเป็นสมาชิกในแต่ละ Tier สามารถบ่งบอกถึงความถี่ในการซื้อสินค้า ปริมาณที่ซื้อ และความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นในการเป็นลูกค้าประจำที่ร้านค้าของเราให้ความสำคัญ เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มนั้นๆเข้าถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ร้านค้าสามารถมอบให้
2. การสะสมคะแนน
การสะสมคะแนนเพื่อรับสิทธิพิเศษในโปรแกรมสะสมคะแนนเป็นโปรแกรมที่พบการใช้งานอย่างแพร่หลายในธุรกิจทุกขนาด โดยการใช้โปรแกรมสะสมแต้มจะกำหนดได้ตามนโยบายของแต่ละร้านค้า บางร้านอาจกำหนดให้ลูกค้าได้รับแต้มตามปริมาณการซื้อสินค้า เพื่อใช้แลกเป็นส่วนลดหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ในขณะที่บางร้านอาจกำหนดเงื่อนไขเฉพาะ เช่น การซื้อครบจำนวนที่กำหนดจะได้รับแต้มเพิ่มเพื่อนำไปใช้ในครั้งถัดไป นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์อื่น ๆ ในการสะสมคะแนน เช่น การมีส่วนร่วมกับกิจกรรมหรือการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ ทำให้โปรแกรมสะสมคะแนนเป็นที่นิยมและสามารถนำไปใช้กับธุรกิจหลายประเภทได้
3. การสมัครสมาชิก
เป็นการให้ลูกค้าสมัครสมาชิกและจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ เช่นส่วนลด หรือ สิทธิพิเศษอื่นๆที่มากกว่าลุกค้าปกติทั่วไปที่ไม่ได้สมัครสมาชิก โดยค่าธรรมเนียมการสมัครขึ้นอยู่กับธุรกิจจะกำหนด เช่น อาจจะเป็นการจ่ายตามระยะเวลารายปี หรือ จ่ายเพียงครั้งเดียวตอนสมัครครั้งแรก
4. การบรอดแคสต์แจกคูปองส่วนลด
การส่งบรอดแคสต์แจกคูปองส่วนลดเป็นโปรแกรมที่มีความเชื่อมโยงกับการแบ่งระดับขั้นและการสมัครสมาชิก การส่งคูปองส่วนลดให้กับลูกค้า VIP และ สมาชิกของร้านค้าเป็นการทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายรู้สึกพิเศษและยินดีที่จะได้รับสิทธิพิเศษที่มากกว่าลูกค้าทั่วไป การใช้โปรแกรมนี้สามารถช่วยทำให้กระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าให้กลายมาเป็นขาประจำได้
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับการทำความรู้จักกับ Loyalty Program หรือการรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำ หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์และนำไปปรับใช้กับธุรกิจออนไลน์กันให้สุดปังกันนะคะ~
🌟 สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
การไลฟ์สดกำลังมาแรงสุดๆในตอนนี้ ไม่ว่าใครๆก็หันมาไลฟ์สดขายของกันหมดตามแพลตฟอร์มต่างๆ หลายคนจึงอาจจะสงสัยว่าการไลฟ์สดมันดีกว่าการขายออนไลน์แบบปกติยังไง? วันนี้จัมโบ้เลยจะมาแชร์ 3 เหตุผลทำไมไลฟ์สดถึงปังสุดๆ สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากหันมาไลฟ์สดขายสินค้ากันค่า~
การเริ่มต้นขายของออนไลน์แบบไลฟ์สดมีข้อได้เปรียบ 3 ข้อ:
1.) ลงทุนน้อยแต่มีโอกาสมีผลตอบลัพธ์สูง
2.) จัดสรรงบประมาณได้ง่าย
3.) มีการโต้ตอบแบบในทันทีสร้างความสนิทกับลูกค้า
1. ลงทุนน้อยแต่มีโอกาสมีผลตอบลัพธ์สูง
การเริ่มลงทุนขายของแบบไลฟ์สด คือหนึ่งในวิธีขายที่ไม่จำเป็นที่ต้องใช้เงินทุนหนาเตอะ แต่สามารถเริ่มไลฟ์ได้เลยแค่มีโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว จะลงทุนได้ตั้งแต่หลักพันจนถึงหมื่นก็สามารถต่อยอดได้ทะลุล้านต่อเดือนได้แบบไม่เกินเอื้อม! “แต่ไลฟ์สดขายของมันไม่มั่นคงนี่ ทำงานอื่นที่มั่นคงกว่านี้ไม่ดีกว่าหรอ” เพราะเงินที่เข้ามาขึ้นอยู่กับออเดอร์ที่ขายได้ หลายๆคนถึงรู้สึกว่าการขายของแบบไลฟ์สดอาจจะไม่ตอบโจทย์กับคนที่ต้องการมีรายได้ที่รวดเร็วและมั่นคงในทันที แต่ลองคิดดูดีๆว่าถ้าทำงานประจำมีรายได้มั่นคงก็จริงแต่ถ้าไลฟ์สดขายของ บอกเลยว่ามีโอกาสในการเติบโตและปังจนรายได้พุ่งจนฉุดไม่อยู่แน่นอน
2. จัดสรรงบประมาณได้ง่าย
หนึ่งในข้อดีที่สำคัญในการไลฟ์สดขายสินค้า การไลฟ์สดขายของทำให้เรารู้ถึงปริมาณสินค้าที่ลูกค้าต้องการที่จะซื้อในสต๊อกของเรา เราไม่จำเป็นที่จะต้องสต๊อกของไว้เยอะ เพราะเรารู้ Demand หรือความต้องการของลูกค้าว่าจำนวนออเดอร์ทั้งหมดที่มีเข้ามาคือกี่บ้านและกี่ออเดอร์จากการที่ลูกค้าพิมพ์รหัส CF เข้ามาเพื่อสั่งซื้อ ต่างจากการสต๊อกของทีเดียวแล้วโพสต์ขาย การที่ทำแบบบนั้นจะต้องลงทุนสต๊อกของไว้ทั้งๆที่ไม่รู้จำนวนความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาก่อน ดังนั้นการที่เราได้เห็นว่าความต้องการของลูกค้าต่อสินค้านั้นๆมีจำนวนประมาณเท่าไหร่เราก็สามารถนำมาคำนวณและปรับใช้ในการสต๊อกสินค้านั้นๆในอนาคตได้ ก็จะทำให้เราจัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อะแฮ่มไหนๆก็ขายระบบซักหน่อย ในระบบ JamboLive จะไลฟ์สดพร้อมโพสต์ขายสินค้าด้วยสต๊อกเดียวกัน ก็สามารถดูดรหัส CF ได้หมด เป็นการขยายช่องทางการขายแถมยังดูด CF ครบ จบ ไว แบบพ่อค้าแม่ค้าแฮปปี้
3. เสริมสร้างความสนิทกับลูกค้า ด้วยการโต้ตอบผ่านไลฟ์สด
เดี๋ยวนี้คนที่มาขายของไม่จำเป็นต้องเป็น ดารา นักร้อง นักแสดง หรือ อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามเป็นหลักแสนก็ขายของได้ แถมพ่อค้าแม่ค้าตัวเล็กๆที่พึ่งเริ่มขายของผ่านไลฟ์ยังมีโอกาสดังและเป็นที่รู้จักด้วยเมื่อมีคาแรคเตอร์เอกลักษณ์เฉพาะตัวและรู้จักการโต้ตอบกับผู้ชม อย่างเช่น การตอบคำถามของผู้ชม อ่าน-ตอบคอมเมนต์แบบทันที ทำให้ผู้ชมรู้สึกดีและทำให้บรรยากาศการถ่ายทอดสดมีการขายสินค้าที่เป็นกันเอง การขายแบบนี้ทำให้ลูกค้าซื้อไม่ใช่เพราะตัวสินค้าอย่างเดียวแต่อาจจะเพิ่มโอกาสในการขายจากสกิลลีลาและฝีปากขอแม่ค้าทำให้ลูกค้าอยากจะซื้อสินค้าจากไลฟ์นั้น
การไลฟ์สดขายของเป็นโอกาสที่ดีในการเปลี่ยนวิธีขายสำหรับร้านค้าออนไลน์ และพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ที่ไม่เคยไลฟ์ขายมาก่อน แต่ต้องจำไว้เสมอว่าทุกอย่างนอกจากความพยายามแล้วต้องใช้เวลาดังนั้นการไลฟ์สดสินค้าก็มีความเสี่ยงในช่วงเริ่มต้น ในช่วงแรกจำนวนผู้ชมอาจจะมีน้อย แต่ถ้าเราใช้เวลาสร้างตัวตนและสร้างฐานแฟนคลับและผู้ซื้อที่เหนียวแน่น เมื่อนั้นความพยายามของเราก็จะส่งผลความสำเร็จจากความทุ่มเทของเราที่เราได้ทำไป
🌟ใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์แบบสุดปัง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 095-174-4436
ในปัจจุบันแค่อาชีพหลักก็คงยังไม่พอกับยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงหันมามามองหาอาชีพเสริมใกล้ตัว และเริ่มต้นง่ายที่สุดคงหนีไม่พ้นการขายสินค้าออนไลน์ ที่เป็นอาชีพมาแรงที่สุดในตอนนี้ แต่จะขายยังไงให้ปัง วันนี้จัมโบ้มีเทคนิคลับขายของออนไลน์สร้างยอดขายให้ทะลุเป้ามาให้กับแม่ค้าออนไลน์กันค่ะ!
ทุกวันนี้เลื่อนหน้าฟีด Facebook Instagram หรือแม้กระทั่ง Tiktok หันไปทางไหนก็เจอแต่คู่แข่ง แต่อยากขายของออนไลน์ให้ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเหมือนคนอื่นๆเขาทำยังไงกัน มาดู 8 เทคนิคลับขายของออนไลน์ให้ปัง สร้างยอดขายให้ทะลุเป้า
กันค่ะ
1. เลือกสินค้าที่ใช่
เคยได้ยินไหมคะว่าการเลือกสินค้าที่ใช่จะเป็นจุดขายให้กับคุณพ่อค้าแม่ค้า เพราะฉะนั้นการเริ่มต้นขายของออนไลน์ที่ดีควรเลือกสินค้าที่ใช่และเหมาะกับกลุ่มลูกค้าของเรา เพราะนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่แม่ค้าควรคำนึงถึง สินค้าดีมีคุณภาพ และเราชอบมันจริงๆ ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
2. หากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
การหาซื้อของมาขายสำคัญแต่อย่าลืมทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมาย! กลุ่มคนที่เราต้องการที่จะขายสินค้าให้คือใคร?ก่อนจะซื้อของมาสต๊อกเพื่อขาย เราควรรู้จักกลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อสินค้าของเรา ศึกษาและทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายให้ดีเพราะนี่จะเป็นวิธีที่จะผลักดันให้ธุรกิจของคุณนั้นเติบโตขึ้น
3. สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์
สังเกตดูว่าแม่ค้าออนไลน์ที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ หรือแม้กระทั่งดาราหรืออินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงหันมาทำธุรกิจขายของออนไลน์กันเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นคุณที่เพิ่งเริ่มต้นขายของออนไลน์ การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์นั้นจะทำให้คุณดูน่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักมากขึ้น ลองทำคอนเทนต์ใหม่ๆ หรือตามเทรนด์ดู นอกจากลูกค้าจะรู้จักคุณพ่อค้าแม่ค้ามากขึ้นแล้ว มันคือการทำการตลาดให้กับธุรกิจได้ไปในตัวอีกด้วย
4. เลือกช่องทางการขายและวิธีการขายสินค้า
หากคุณพ่อค้าแม่ค้ากำลังเริ่มต้นการขายของออนไลน์ การเลือกช่องทางการขายบนแพลตฟอร์มต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญต่อการขายสินค้าเช่นกัน ดูว่ากลุ่มเป้าหมายของเราใช้งานบนแพลตฟอร์มไหนมากที่สุด และวิธีการขายสินค้านอกจากการโพสต์สินค้าขายแล้ว การไลฟ์สดขายสินค้าก็เป็นช่องทางยอดฮิตดันยอดปังสุดๆ
5. วิธีการยิงแอดโฆษณา
เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของคนที่กำลังเริ่มต้นการขายสินค้าให้เป็นที่รู้จัก และสร้างการมองเห็นของร้านค้าออนไลน์ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนมากมักจะใช้วิธีการยิงแอดเพื่อกระตุ้นเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าของตัวเอง แต่การยิงแอดมีค่าใช้จ่ายอย่าลืมศึกษาและคำนวนต้นทุนและกำไรของคุณให้ดีด้วยนะ!
6. ขายสินค้าบนเว็บไซต์ (Sale page)
นี่เป็นอีกวิธีการขยายช่องทางการขาย ให้กับธุรกิจออนไลน์ของคุณพ่อค้าแม่ค้า นอกจากการขายบนเว็บไซต์จะขายสินค้าได้ 24 ชั่วโมงแล้วก็ยังสามารถแนะนำสินค้าอื่นๆที่คล้ายกันเพื่อเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าที่ในการเลือกซื้อสินค้าอื่นๆอีกด้วย
7. จัดทำแคมเปญและโปรโมชั่น
พ่อค้าแม่ค้าที่เริ่มต้นการขายของออนไลน์ การสร้างโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม หรือ Flash Sale เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจลูกค้าและกระตุ้นยอดขาย เพราะการให้ราคาพิเศษในช่วงระยะเวลาสั้นๆที่จำกัดจะช่วยทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างรวดเร็ว และเป็นอีกวิธีที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำในครั้งถัดไป
8. เลือกใช้ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์
การใช้ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ช่วยจัดการหลังบ้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบที่สามารถจัดการร้านค้าออนไลน์ที่มีเว็บไซต์สำเร็จรูปที่สามารถจัด Flash Sale เพื่อเป็นการขยายช่องทางการขายเพื่อเพิ่มยอดขายได้ ยิ่งปัง!
ในระบบ JamboLive มีฟีเจอร์กระตุ้นยอดขาย มากกว่า 100 ฟีเจอร์ พร้อมกับ เว็บไซต์สำเร็จรูป Jambo E-Mall สำหรับคุณพ่อค้าแม่ค้า เพื่อนำสินค้าที่ต้องการขายลงเว็บไซต์สำเร็จรูปได้แบบง่ายดาย บนเว็บไซต์ลูกค้าสามารถซื้อของบนเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบการสั่งซื้อและตระกร้าสินค้า พร้อมกับคำนวนราคาได้อย่างแม่นยำ บอกเลยว่าปิดการขายง่าย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สร้างยอดขายได้รัวๆ!
สรุป
1. การเลือกสินค้าที่ใช่
2.หากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
3.สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์
4.เลือกช่องทางการขายและวิธีการขายสินค้า
5.วิธีการยิงแอดโฆษณา
6.ขายสินค้าบนเว็บไซต์ (Sale page)
7.จัดทำแคมเปญและโปรโมชั่น
8.เลือกใช้ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์
เป็นยังไงบ้างคะ 8 เทคนิคลับที่เราเอามาเสนอในวันนี้ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่อยากเริ่มต้นขายของออนไลน์นะคะ~ รับรองว่าจะปังสร้างยอถ้านำไปปรับใช้จะมียอดขายทะลุเป้าแน่นอนค่ะ!!
🌟 สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://jambolive.tv/th/
โทร: 02-4590288
วันนี้จัมโบ้มาแชร์ 10 ข้อสังเกตุ ที่พ่อค้าแม่ค้าที่กำลังมองหาระบบดูดCFต้องดูก่อนตัดสินใจซื้อระบบดูดกันค่ะ! มีอะไรบ้างมาดูกันเลย~
1. ช่องทางการดูดออเดอร์มีกี่ทาง?
- ดูดในแพลตฟอร์มไหนบ้าง?
- ดูดผ่านช่องทางไหน?
ปัจจัยแรกก่อนการตัดสินใจซื้อคือการรู้ก่อนว่าร้านค้าของเราขายของในช่องทางไหนบ้าง และผ่านวิธีการโพสต์แบบไหน ไลฟ์สด, โพสต์, reels เป็นการขายผ่าน เฟซบุ๊คอย่างเดียว หรือมีการขายผ่านแพลตฟอร์มอื่นร่วมด้วย จะทำให้การตัดสินใจซื้อระบบเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
2. สร้างสินค้าได้กี่ชิ้น ดูดCFได้กี่ออเดอร์?
โดยพื้นฐานแล้วก่อนจะสามารถใช้ระบบดูดทุกเจ้าได้ คุณพ่อค้าแม่ค้าจะต้องมีการสร้างสินค้าพร้อมรหัสสินค้า เพื่อตั้งค่า ก่อนที่จะสามารถบอกรหัสให้ทางลูกค้ากดCF รหัสสินค้าเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นเราควรดูด้วยว่าระบบดูดแพ็กเกจไหน สามารถสร้างสินค้าได้กี่ชิ้น ถ้าร้านของเรายังมีออเดอร์ที่จำนวนไม่มากอยู่ เราก็สามารถใช้แพ็กเกจที่ราคาไม่สูงมากนัก ที่มีจำนวนสร้างสินค้าที่พอดีต่อร้านค้าของเรา
3. มีการสอนการใช้งานที่เข้าใจง่ายไหม?
การสอนการใช้งานคือหนึ่งในข้อที่สำคัญที่สุดที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจจะซื้อระบบ เพราะอย่าลืมว่าก่อนเราจะรู้วิธีใช้ระบบต่างๆเราต้องมีการศึกษาและเรียนรู้วิธีการใช้งาน การที่ระบบมีการสอนตัวต่อตัวและวิดีโอที่ช่วยทำให้คุณพ่อค้าแม่ค้าเรียนรู้และเข้าใจได้ง่ายเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ยิ่งถ้าเป็นการสอนการใช้งานแบบตัวต่อตัวออนไลน์จะยิ่งเข้าใจง่ายกว่าการได้คลิปวิดีโอการใช้งานมาดูและศึกษาเองเพราะสามารถถามคำถามได้ตรงจุดเมื่อสงสัย
4. เปิดบิลผ่านแชท สำหรับลูกค้านานแค่ไหน?
หลังจากลูกค้าCF การสรุปยอดหรือเปิดบิลเข้าแชทนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เราควรดูว่าใช้ระยะเวลานานแค่ไหนกว่าลิงก์สรุปยอดจะส่งมาถึงแชทของลูกค้าที่ CF ออเดอร์ไปเพราะถ้าลิงก์สรุปยอดเข้าแชทช้าโอกาสในการที่ลูกค้าจะจ่ายเงินก็ต่ำลงเช่นกัน โดยการเทสตรงนี้คุณพ่อค้าแม่ค้าสามารถทดลองกับไลฟ์บนเพจของตัวเองได้โดยมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ
1.) ทำการเชื่อมไลฟ์สด, โพสต์, หรือ reels ที่ต้องการทดลองCF ผ่านช่องทางนั้น
2.) หลังจากเชื่อมระบบดูดแล้ว นำอีกแอคเคาท์มาลองพิมพ์รหัส CF
3.) รอการแจ้งเตือนข้อความสรุปยอดพร้อมลิงก์เช็คเอาท์(เปิดบิลอัตโนมัติ)ได้เลย
การเปิดบิลอัตโนมัติหลังลูกค้า CF มี 2 กรณี
- CF ปุ๊ปได้ปั๊ป เปิดบิลแล้ว ข้อความสรุปยอดพร้อมลิงก์เช็คเอาท์เด้งแจ้งเตือนมาในแชททันทีหรือในระยะเวลาไม่นานนัก แปลว่าระบบนั้นเสถียร
- CF ข้ามวันข้ามคืน ถ้าลิงก์สรุปยอดยังไม่มีการแจ้งเตือนมาแปลว่าตัวระบบอาจจะมีการแจ้งสรุปยอดที่ช้าหรือมีปัญหาบางอย่าง
**แต่ถ้าใช้ จัมโบ้ไลฟ์ CF ปุ๊ป เปิดบิลอัตโนมัติเด้งเข้าแชทปั๊ปแน่นอน ^___^
5. มีบริการปรึกษาก่อนและหลังการขายไหม?
การให้ปรึกษาของแอดมินสำคัญมากๆเพราะระหว่างใช้ ถ้าเกิดมีปัญหาหรือต้องการคำปรึกษา การมีทีมที่คอยซัพพอร์ต ตอบเร็ว และจัดการปัญหาได้ทันท่วงที เป็นเรื่องที่สำคัญในการตัดสินใจซื้อระบบนั้นๆ เพราะลองจินตนาการว่าถ้าใช้ระบบดูดเจ้าไหนที่ทีมซัพพอร์ตดองแชท ตอบช้า หรือส่งเรื่องไปแล้วปัญหาใช้เวลานานกว่าจะได้แก้ นั่นจะส่งผลกระทบต่อการขายของร้านค้าของเราได้ค่ะ
ถ้าใช้ระบบดูด JamboLive บอกเลยว่าตอบทุกโจทย์
✅ ดูดได้หลายช่องทางผ่าน แชท, ไลฟ์สด, โพสต์, reels ใน Facebook, Instagram, Tiktok
✅ ดูด CF ครบ100% ไม่ตกหล่น พร้อมเปิดบิลเข้าแชทอัตโนมัติ
✅ ฟีเจอร์แน่น เชื่อมสต็อกเดียวทุกแพลตฟอร์ม, รวมแชท และอื่นๆอีกเพียบ
✅ ปรึกษาฟรี เต็ม10 ให้ 100 เรื่องบริการ ดูแลคุณดุจญาติมิตร
✅ สอนออนไลน์ตัวต่อตัวจนใช้เป็น มีวิดีโอให้กลับมาดูได้ตลอด
✅ ระบบอัพเดททุกอาทิตย์
✅ ทดลองใช้ฟรี ไม่มีค่าแรกเข้า
🌟 ระบบดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ JamboLive Thailand สนใจใช้ระบบดูดCFฟรี 7 วัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://jambolive.tv/th/
โทร: 02-4590288
ลองหาข้อมูลระบบดูด cf มาหลายเจ้าจนตาลายก็ยังเลือกไม่ได้สักทีเพราะแพ็กเกจเยอะจนเลือกไม่ถูก!
จัมโบ้จะมาป้ายยาแพ็กเกจเด็ดสำหรับแม่ค้าออนไลน์สายคุ้ม! ชนิดเติมครั้งเดียว ไม่มีวันหมดอายุการใช้งาน! เรียกได้ว่าใช้กันยาวๆไปเลยจ้า~
ก่อนจะไปดู 5 เหตุผลว่าทำไมคุณพ่อค้าแม่ค้าควรใช้ระบบดูดcfแบบเติมเงินก็มาทำความรู้จักกับ ระบบดูดเติมเครดิต กันก่อนเลย
ระบบดูดเติมเครดิต คือ
ในระบบ JamboLive ลูกค้าสามารถเติมเครดิตได้
1 บาท ต่อ 1 เครดิต โดยมีการเติมขั้นต่ำ 1500 บาท (หรือสอบถามแอดมินก่อนได้)
ระบบหักเครดิตยังไง?
ตัด 1 เครดิต ต่อ 1 บิล (ไม่จำกัดจำนวนชิ้น)
#จัมโบ้ไลฟ์ เจ้าแรกเจ้าเดียว ที่ไม่ว่าลูกค้าจะ CF กี่ชิ้น ระบบก็จะตัดเพียง 1 บาท
เครดิตนำไปใช้อะไรได้บ้าง?
-ใช้ตัด 1 เครดิต ต่อ 1 บิล (ไม่จำกัดชิ้น/ออเดอร์)
-ใช้ส่งพัสดุผ่านระบบ JamboLive ด้วยขนส่ง Kerry, Flash Express, J&T และ Thaipost ไปรษณีย์ไทย โดยสามารถดูรายละเอียดค่าขนส่งของแต่ละขนส่งได้ ที่ ค่าส่งพัสดุราคาถูก 2024 ส่งผ่านระบบ JamboLive
-ใช้ตรวจสลิปอัตโนมัติ โดยหัก 0.50 เครดิต ต่อครั้ง
วิธีการเติมเครดิต
สามารถแจ้งแอดมินเพื่อเติมเครดิตเข้าระบบได้เลย
5 เหตุผลว่าทำไมใช้ระบบดูดแบบเติมเงินถึงคุ้มค่ากว่า
1. ไม่มีวันหมดอายุ
พ่อค้า แม่ค้าสามารถเก็บเครดิตไว้ได้เรื่อยๆจนกว่าจะมีการขายในรอบต่อไป
จะขายในไลฟ์, โพสต์, reels เดือนนี้แล้วอยากพักค่อยกลับมาขายอีกทีเดือนหน้าก็เก็บเครดิตในระบบไว้ได้ เพราะไม่มีวันหมดอายุ เก็บไว้ใช้ยาวๆได้เลยจ้า
2. ฟีเจอร์เกินราคา
ในแพ็กเกจเติมเงินพ่อค้าแม่ค้าสามารถใช้ฟีเจอร์:
- ดูดออเดอร์จากหลายช่องทาง Facebook, Instagram, Tiktok
- เชื่อมสต็อกเดียวขายทุกแพลตฟอร์ม
- รวมแชทหลายช่องทางไว้ที่เดียว (Facebook, Instagram, Line OA)
- สร้างรหัสสินค้าได้ไม่จำกัดและไม่จำกัดออเดอร์
- จัดการต่อคิวลูกค้าและแบล็กลิส
- บรอดแคสต์ข้อความ
- แดชบอร์ดวิเคราะห์การขาย
- และฟีเจอร์แน่นๆอีกเพียบ
3. ราคาไม่สูง คุ้มค่าคุ้มราคา
ราคาขั้นต่ำไม่สูงนัก เหมาะสำหรับทั้งแม่ค้ามือใหม่และแม่ค้าที่ขายแบบมือโปร ถ้ามีออเดอร์เยอะก็สามารถเติมเครดิตเพิ่มได้ตามแต่ใจต้องการ
4. จัดสรรงบประมาณง่าย
คุณพ่อค้าแม่ค้าสามารถคำนวนได้ว่าจะเติมเงินและใช้ตัดเครดิตไปกับอะไร ในงบประมาณเท่าไหร่ ถ้าเดือนไหนมีออเดอร์เยอะก็เติมเดือนนั้นเยอะ ถ้าเดือนไหนออเดอร์ไม่เยอะมากก็สามารถจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายได้
5. มีทดลองใช้ฟรี สอนใช้ระบบฟรี ไม่มีค่าแรกเข้า
จัมโบ้ไลฟ์ มีสอนออนไลน์จนใช้ระบบเป็นแถมมี tutorial วิดีโอสอนการใช้งานแต่ละฟีเจอร์ในระบบ ที่สามารถกลับมาดูได้ทุกเมื่อ
🌟 ระบบดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ JamboLive Thailand สนใจใช้ระบบดูดCFฟรี 7 วัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 02-4590288
“ส่งพัสดุบริษัทขนส่งเจ้าไหนถูกที่สุด?” นี่น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์หลายคนสงสัย และพยายามตามหาบริษัทขนส่งพัสดุที่ให้ ราคาค่าส่งที่ถูกที่สุดเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจออนไลน์ ดังนั้นวันนี้ JamboLive เลยจะมาแชร์เรทราคาค่าส่งพัสดุผ่านตัวระบบ JamboLive ที่คุณพ่อค้าแม่ค้าสามารถเชื่อมได้กับ 4 ขนส่งเจ้าดัง ดังนี้ค่ะ
1. Flash แฟลช บริษัทขนส่งพัสดุเจ้าสีเหลือง ขวัญใจแม่ค้าออนไลน์
จุดเด่น
- 365 วันส่งทั่วไทย ไม่มีวันหยุด
- รองรับ COD เก็บเงินปลายทาง
- เรียกแฟลชมารับพัสดุที่บ้าน
- Speed Delivery ส่งไว ถ้าส่งช้า การันตีคืนค่าจัดส่งให้
- On-Time Delivery ส่งพัสดุภายในเวลาที่กำหนด
- ส่งของชิ้นใหญ่ได้
เรียกรถเข้ารับพัสดุถึงบ้าน : ไม่ขั้นต่ำจำนวนชิ้น เข้ารับถึงบ้านได้ตั้งแต่ชิ้นแรก หรือ Drop-off ที่สาขา
ค่าธรรมเนียม เก็บเงินปลายทาง : 3% (ไม่มีขั้นต่ำ)
ราคาส่งเริ่มต้น : 19 บาท
วิธีการชำระเงิน : ชำระด้วย JamboLive เครดิต (1 บาท = 1 เครดิต)
พื้นที่ให้บริการ : ทั่วประเทศไทย
2. ไปรษณีย์ไทย บริษัทขนส่งพัสดุที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน
จุดเด่น
- เน้นบริการ 365 วันไม่มีวันหยุด
- ครอบคลุมพื้นที่ทั่วไทย
- บริการหลากหลาย ทั้งส่งพัสดุในประเทศ และ ส่งพัสดุต่างประเทศ
- ส่งพัสดุได้หลายแบบ ได้แก่ ส่งพัสดุธรรมดา ลงทะเบียน และ EMS
- มีบริการส่งภายในวันเดียว (ในภูมิภาคเดียวกัน)
- รับพัสดุถึงบ้าน
- ส่งของชิ้นใหญ่ได้
- รองรับ COD เก็บเงินปลายทาง
เรียกรถเข้ารับพัสดุถึงบ้าน : Drop-off ที่สาขา
ค่าธรรมเนียม เก็บเงินปลายทาง : 3% (ขั้นต่ำ 20 บาท)
สำหรับสิ่งของที่มีการฝากส่งไปยังปลายทางพื้นที่เกาะจำนวน 17 ปลายทาง/รหัสไปรษณีย์ ทางไปรษณีย์จะคิดอัตราค่าบริการเพิ่มพิกัดละ 15 บาท/ชิ้น โดยมีรายชื่อปลายทางที่ทำการในพื้นที่พิเศษดังนี้
ราคาส่งเริ่มต้น : 25 บาท (จัดส่งแบบ EMS)
วิธีการชำระเงิน : ชำระเงินที่สาขา
พื้นที่ให้บริการ : ทั่วประเทศไทย
3. KERRY EXPRESS เคอรี่บริษัทขนส่งพัสดุเจ้าสีส้ม ครอบคลุมขนส่งทั่วไทย
จุดเด่น
- เปิดบริการตลอด 365 วัน ไม่เว้นวันหยุด
- บริการส่งพัสดุถึงมือผู้รับภายในวันเดียว
- บริการเรียกรถเคอรี่ไปรับพัสดุถึงบ้าน
- บริการรับพัสดุด้วยตัวเอง
- บริการเก็บเงินปลายทาง
- จุดบริการมากกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ
- สาขาย่อยตามสถานีรถไฟฟ้า
- รองรับ COD เก็บเงินปลายทาง
เรียกรถเข้ารับพัสดุถึงบ้าน : ค่าเข้ารับขั้นต่ำ 60 บาท/ครั้ง สูงสุด 200 บาท หรือ Drop-off ที่สาขา
ค่าธรรมเนียม เก็บเงินปลายทาง : 3% (ไม่มีขั้นต่ำ)
ราคาส่งเริ่มต้น : 28 บาท
วิธีการชำระเงิน : ชำระด้วย JamboLive เครดิต (1 บาท = 1 เครดิต)
พื้นที่ให้บริการ : ทั่วประเทศไทย
4. J&T EXPRESS เจแอนด์ที บริษัทขนส่งพัสดุที่มีเครือข่ายครอบคลุมนานาประเทศ
จุดเด่น
- เปิดให้บริการตลอด 365 วัน รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
- บริการส่งด่วนภายใน 1 วัน
- หากพัสดุเสียหายหรือสูญหาย ชดเชยค่าเสียหายให้ภายใน 24 ชั่วโมง
- เรียก J&T Express มารับพัสดุถึงบ้าน
- มีสาขาย่อยตามสถานีรถไฟฟ้า MRT ครอบคลุมหลายพื้นที่เขตทั่วกรุงเทพมหานคร
- รองรับ COD เก็บเงินปลายทาง
**ลูกค้าจะต้องเปิด VIP กับทางสาขาของ J&T Express และสามารถตกลงรายละเอียด ราคาขนส่ง และอื่นๆกับ J&T Express ได้เลย
เรียกรถเข้ารับพัสดุถึงบ้าน : เรียกรับถึงบ้าน ขั้นต่ำ 10 ชิ้น หรือ Drop-off ที่สาขา
ค่าธรรมเนียม เก็บเงินปลายทาง : 3% (ไม่มีขั้นต่ำ)
วิธีการชำระเงิน : ชำระด้วย JamboLive เครดิต (1 บาท = 1 เครดิต)
พื้นที่ให้บริการ : ทั่วประเทศไทย
🌟 สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 02-4590288
ขายของออนไลน์ก็เหนื่อยแล้ว ยังจะต้องมาเจอลูกค้ามิจฉาชีพลูกค้าโอนทิพย์ ด้วย “สลิปปลอม” อีก
เพราะอย่างนั้น วันนี้จัมโบ้ไลฟ์เลยมาแชร์วิธี เช็คสลิปโอนเงินว่าอันไหนสลิปปลอม สลิปจริง มาฝากคุณพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กันค่ะ!
✅ 1.สังเกตุที่ตัวหนังสือและเนื้อหา
สิ่งที่ควรสังเกตุหลักๆคือ เนื้อหา และ หน้าตา ของข้อความค่ะ
เนื้อหาที่ต้องตรวจสอบมี 4 จุดหลักๆด้วยกัน:
1. วันที่
2. เวลา
3. ชื่อผู้รับ
4. จำนวนเงิน
ส่วนหน้าตาของตัวหนังสือ ควรดูว่ามีตัวหนังสือ หนา-บาง เล็ก-ใหญ่ หรือ ฟอนต์ตรงไหนที่ไม่เหมือนกันไหม
ถ้ามีบางอย่างผิดแปลกไปเช่นสะกดชื่อผู้ส่งผิด ตัวหนังสือบูดเบี้ยวก็เดาได้เลยค่ะว่าสลิปปลอม
✅ 2. รับ notification โดยตรงจากธนาคาร
การรับแจ้งเตือนจากธนาคาร อย่างเช่นผ่าน Mobile Banking และ Line Official ทำให้ไม่ต้องเข้าไปเช็คในแอปธนาคารตลอด แค่รอดูเงินเข้า-ออกผ่านการแจ้งเตือนได้เลย
✅ 3. ตรวจด้วย QR Code
วิธีนี้ง่ายและชัวร์ แต่จะต้องรู้ขั้นตอนการอัปโหลดรูปสลิปเพื่อตรวจสอบในแอปธนาคารก่อน
ขั้นตอนง่ายมาก:
1. บันทึกรูปภาพสลิปของลูกค้า
2. เข้าแอปธนาคาร
3. กดไปที่แถบเมนู แสกน QR Code
4. กดรูปจากคลังรูปภาพ
5. หลังแสกน ให้ตรวจสอบว่ามีข้อมูล เวลา ชื่อผู้โอน และจำนวนเงินถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ถ้าไม่มีข้อมูลขึ้นมาหลังแสกน หรือมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องก็อาจจะเป็นไปได้ว่านั่นไม่ใช่สลิปจริงค่ะ
✅ 4. เช็คยอดเงินที่เข้าบัญชีผ่านแอป
เช็คยอดเงินผ่านแอปธนาคารเป็นวิธีที่สะดวกและมั่นใจที่สุด แต่อาจจะต้องรอการดำเนินการหลังโอนซักครูนึงก่อน
✅ 5.ใช้ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่มีฟีเจอร์ตรวจสลิป
ในระบบดูดออเดอร์ และจัดการร้านค้าออนไลน์ ของJamboLive มีฟีเจอร์ตรวจเช็คสลิป พร้อมมีสีเขียว-แดง บ่งบอกแบบชัดเจนว่าสลิปไหนจริงและปลอม ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบไม่ต้องเสียเวลาเช็คยอดเงินเข้าทีละอัน ในตัวระบบดูดได้ทั้ง คอมเมนต์ไลฟ์สด, โพสต์, reels ครบแบบ 100% ใช้งานง่าย แถมแอดมินใจดี มีสอนตัวต่อตัวชนิดจับมือทำกันไปเลยจ้า
สรุป🌟
1. สังเกตุที่ตัวหนังสือและเนื้อหา
2. รับ notification โดยตรงจากธนาคาร
3. เช็คสลิปด้วย QR Code ในแอปธนาคาร
4. เช็คยอดเงินที่เข้าบัญชีผ่านแอป
5. ใช้ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่มีฟีเจอร์ตรวจสลิป
💖 จัมโบ้ไลฟ์ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อค้าและแม่ค้าทุกๆคนให้เจอแต่ลูกค้าน่ารักๆไม่เจอสลิปปลอมกันน้าค้า~
🌟 สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 02-4590288
อยากรวย เห็นคนอื่นขายของแบบไลฟ์สดกันแล้วมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เลยหันมาขายของบ้างแต่พอขายแล้วสุดจะนอยด์เพราะขายไม่ดีซักที
วันนี้จัมโบ้ไลฟ์เอาบทความจาก JamboLive สาขาแม่ที่ไต้หวันมาแปลเพื่อแชร์ทริคดีๆว่าทำยังไงให้ไลฟ์สดขายของให้เพิ่มยอดขาย "ทะลุแสน" ต่อเดือนกันจ้าา
Kasper (Cheng Kai Yang) ผู้ก่อตั้งบริษัท JamboLive บอกว่าแค่ "มีฐานคนดูไลฟ์ 100คน” ก็มียอดขายทะลุแสนต่อเดือนได้! ป๊าดดดพออ่านแล้วก็นึกสงสัยว่ามันจะได้จริงๆหรอโม้หรือเปล่าแต่มันทำได้จริงๆ! เป้าหมายสำคัญที่ต้องโฟกัสเลยคือ การมีฐานคนดูให้ถึง 100 คนในไลฟ์สด แล้วที่จะไปให้ถึงเป้าหมายนั้นมันทำยังไงหว่า ถ้าสงสัยก็อย่ารอช้าไปอ่านกันเลย~
1. สนิทกับลูกค้ามีชัยไปกว่าครึ่ง!
ผู้ติดตามเยอะ ≠ ยอดขายปัง เรามักมีความเข้าใจผิดว่ามีผู้ติดตามเยอะจะมียอดปังขึ้นด้วย แต่จริงๆแล้วสิ่งสำคัญคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตามของเราเพื่อที่จะมี “ฐานลูกค้า” ต่างหาก! มีผู้ติดตามเยอะแต่ไม่ได้มีการสร้างengagementกับลูกค้าเลยก็ขายไม่ได้จ้า ในหลายๆร้านที่มียอดคนดูเยอะลูกค้าที่เข้าไปดูไลฟ์สดไม่ได้เข้าไปเพราะอยากซื้อของหรือเห็นว่าไลฟ์สดนั้นขายอะไรที่พวกเขาสนใจ แต่เพราะแม่ค้าร้านนั้นชอบพูดคุยกับลูกค้าจนรู้สึกว่าได้รับความบันเทิงและเหมือนเป็นเพื่อนพูดคุยมากกว่า และนั่นก็คือการสร้างฐานลูกค้าที่จะเป็นคนดูไลฟ์สดของเราต่อๆไป เราอาจจะขายของที่ลูกค้าไม่ได้สนใจแต่เราได้มีความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าของเรา พวกเขาก็อยากจะเข้ามาดู มาฟังไลฟ์สดเราเพื่อความบันเทิงและมีโอกาสที่จะซื้ออุดหนุนของจากไลฟ์สดนั้นๆมากขึ้นไปอีกเพราะแบบนั้น การที่มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นน่ะสำคัญสุดๆ!
2.ใช้โซเชียลมัดใจ!
“ ใช้เงินยิงแอดหาลูกค้าก็จบแล้ว ” การวางงบเพื่อยิงแอดเป็นเรื่องที่ดีและสามารถทำได้เพื่อเพิ่มยอดการเข้าถึงและเพิ่มลูกค้าใหม่ๆ แต่ว่าการที่ต้องใช้เงินเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาตลอดๆแบบนี้ คำถามคือเราต้องจ่ายเพื่อที่จะมีลูกค้าตลอดไปเลยหรอ? การยิงแอดที่ดีคือการที่เรายิงแอดเพื่อดึงลูกค้าเข้ามา มัดใจ และคงความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าไว้ให้ได้ แม่ค้าไลฟ์สดส่วนใหญ่จะปั้นเพจหรือร้านค้าออนไลน์ก็ต้องหาวิธีมัดใจลูกค้าใหม่ๆ เพื่อให้มาเป็นแฟนคลับและผู้ติดตามเพจบนช่องทางโซเชียลต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, LINE, วิดีโอสั้นบน TikTok หรือจะไลฟ์สดเป็นประจำให้คนที่ผ่านมาเห็นรู้สึกคุณเคยกับเราเพื่อเอายอดการเข้าถึง ตราบใดที่เราตั้งใจและพยายามผลิตคอนเทนต์ต่างๆอย่างสม่ำเสมอ 100 คนที่เป็นจะมาเป็นฐานลูกค้าก็ไม่เกินเอื้อม!
3.หาสไตล์ของตัวเอง สร้างคาแรคเตอร์!
“คนเราชอบดูอะไรสวยๆงามๆ” หน้าตาดีก็เป็นที่สนใจของผู้คนแต่การไลฟ์สดขายของไม่ได้แปลว่า ต้องหน้าตาสวย หล่อ ตามพิมพ์นิยมแบบที่สังคมบอกอย่างเดียวถึงจะมีคนดูหรือขายของได้ เพราะทุกคนมีความสวยหล่อของตัวเอง เพราะอย่างนั้นสิ่งที่สำคัญจริงๆคือการค้นหาตัวเอง ถามตัวเองว่าเรามีอะไรที่โดดเด่น? เราเก่งเรื่องอะไร? จุดขายของเราคืออะไร? สิ่งที่จำเป็นสำหรับ พ่อค้าแม่ค้าไลฟ์สดขายของอย่างเราคือเราต้องหาคาแรคเตอร์ที่เราอยากจะเป็น และเอาความสวยหล่อของเราแสดงออกมาผ่านการเป็นตัวของตัวเอง แล้วความจริงใจของเราจะส่งไปถึงลูกค้าเอง!
สรุป
1. สนิทกับลูกค้า
2. โพสต์บนโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ
3. หาสไตล์ของตัวเองและสร้างคาแรคเตอร์
💖 จัมโบ้ไลฟ์ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อค้าและแม่ค้าทุกๆคนไลฟ์สดให้ยอดปังกันถ้วนหน้าจ้า~
🌟 สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE:https://th.jambolive.tv/
โทร: 02-4590288
การทำคอนเทนต์ คือ การสื่อสารและนำเสนอข้อมูลเพื่อส่งให้ถึงผู้รับสาร ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ รูปภาพ โพสต์ วิดีโอ คลิปสั้น และอื่นๆ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ในเชิงธุรกิจการทำคอนเทนต์คือหนึ่งในการโปรโมตตัวแบรนด์หรือธุรกิจที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย
" ลูกค้าชอบซื้อแต่ไม่ชอบถูกขาย " ประโยคนี้คือการสรุปแนวทางคอนเทนต์ที่กำลังมาแรงในปี 2024 เลยทีเดียว สิ่งที่สำคัญที่จะมัดใจลูกค้าที่ดูคอนเทนต์คือ " ความจริงใจ " เดี๋ยวนี้จะขายของต้องรู้วิธีการเล่าเรื่องราวของตัวแบรนด์และสินค้าให้ลูกค้าจดจำและมั่นใจในตัวแบรนด์แบบที่ไม่ดูว่าขายจนเกินไป
📢 โดยวันนี้จัมโบ้ไลฟ์มาแชร์ไอเดียการทำคอนเทนต์ให้กับคุณพ่อค้าและแม่ค้าที่กำลังคิดจะทำคอนเทนต์เพื่อแบรนด์ของตัวเองกันค่ะ!
บอกเล่าเรื่องราวแบรนด์:
การบอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของแบรนด์และสินค้าทำให้ลูกค้าเข้าใจที่มาของบริษัท/สินค้า แบบมีภาพจำและรู้สึกผูกพันธ์กับแบรนด์
🌟ตัวอย่างคอนเทนต์
✅ โพสต์ภาพเป็นอัลบั้มพร้อมข้อความอธิบายเบื้องหลังความเป็นมาของแบรนด์
✅ โมเมนต์เกี่ยวกับการก่อตั้งแบรนด์พร้อมเสียงพากย์
✅ บอกเล่าว่าทำไมถึงขายสินค้า/บริการนั้นๆ
แชร์ทริค ความรู้ ประสบการณ์:
การนำเสนอความรู้ หรือประสบการณ์ที่มีประโยชน์และตรงกับความสนใจของลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้ความรู้จากเราแถมยังทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณอีกด้วย
🌟ตัวอย่างคอนเทนต์
✅ แชร์ทริคเกี่ยวกับเรื่องที่ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะสนใจ เช่นถ้าเปิดร้านขายเสื้อผ้าอาจจะทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับรูปทรงต่างๆของร่างกายว่ามีกี่แบบ หรือ การMix and Match เสื้อผ้าแต่ละแบบ
✅ ประสบการณ์เตือนภัยอุทาหรณ์สอนใจ
✅ แชร์ทริคขายของยังไงให้ได้กำไร
สร้างพลังบวก แรงบันดาลใจ:
ใครๆก็ชอบดูอะไรที่ทำให้รู้สึกดี การสร้างคอนเทนต์ที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำอะไรบางอย่างเป็นคอนเทนต์ที่ไม่มีตกยุคที่มัดใจคนดู
🌟ตัวอย่างคอนเทนต์
✅ แนวคิดดีๆในการทำธุรกิจ
✅ เบื้องหลังความสำเร็จ
✅ สัมภาษณ์เจ้าของแบรนด์เกี่ยวกับความสำเร็จให้เป็นแรงบันดาลใจ
คอนเทนต์สายมู:
คนไทยกับความมูอยู่คู่กัน ข้อมูลเหล่านี้จะเน้นการแชร์ต่อและความมีส่วนร่วม กับลูกค้าหรือคนที่เห็น
🌟ตัวอย่างคอนเทนต์
✅ ดวง 12 ราศี
✅ สีเสื้อมงคล
✅ ปีนักษัตร
รีวิวลูกค้า/สินค้า:
โพสต์รีวิวจากลูกค้าทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวธุรกิจและทำให้ลูกค้าใหม่ๆที่เข้ามาเห็นและรับรู้ว่าแบรนด์เราเชื่อถือได้และเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการสินค้า
🌟ตัวอย่างคอนเทนต์
✅ รีวิวจริงจากแชทลูกค้า
✅ วิดีโอรีวิวจากลูกค้าที่ใช้จริง
สิ่งที่สำคัญในการนำไอเดียทำคอนเทนต์เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้คือการนำเสนอเรื่องราวให้เป็น การทำคอนเทนต์ในลักษณะเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ของลูกค้าต่อแบรนด์และสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการเน้นแต่จะขายเพียงอย่างเดียว
💖 จัมโบ้ไลฟ์หวังว่าพ่อค้าและแม่ค้าทุกๆคนจะมีไอเดียในการทำคอนเทนต์ดีๆจากบทความนี้ไปประยุกต์ใช้กันนะคะ ^___^
🌟 สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์และจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 02-4590288
เดี๋ยวนี้ใครๆก็หันมาไลฟ์สดของกันทั้งนั้น แต่ว่าจะไลฟ์สดทั้งที ก็มีสิ่งที่ต้องรู้ไว้เพื่อทำให้การไลฟ์สดไหลลื่นไม่มีสะดุดยอดขายพุ่งกระฉูด!!! วันนี้ ระบบดูดออเดอร์จัมโบ้ไลฟ์ เลยจะมาแชร์ 5 เคล็ดลับ ที่คุณพ่อค้าและแม่ค้าที่ไลฟ์สดควรรู้ก่อนไลฟ์!
1. จำนวน (Units) : เตรียมสินค้าอย่างต่ำ 20 รายการ
จำนวนสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการขายแบบไลฟ์ ควรเตรียมสินค้าไว้อย่างน้อย 20 รายการ เพื่อให้การถ่ายทอดสดเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น และทำให้ลูกค้ามีหลายตัวเลือกในการซื้อ
2. การเลือกสินค้า (Selection) : กฎ 80/20
เลือกสินค้าที่ขายดีเป็น 80% และสินค้าที่ไม่ได้รับความนิยมเป็น 20% โดยสินค้าที่ขายดีสามารถขายต่อไปเรื่อยๆได้โดยไม่ต้องหาอะไรมาทดแทน คุณพ่อค้าและแม่ค้าสามารถดูรายงานสินค้ายอดนิยมผ่านสรุปรายงานการขายได้ ในระบบดูดออเดอร์จัมโบ้ไลฟ์
3. การจัดเรียง (Arrange) : ขายสินค้าจากถูกไปแพง
ในการกำหนดราคาสินค้าในไลฟ์สด สินค้าห้าชิ้นแรกที่ถูกขาย มีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวโน้มราคา เราควรตั้งราคาสินค้าแรกให้ถูกไว้ก่อนโดยไม่หวังกำไร แล้วเพิ่มราคาในรายการถัดไปเรื่อย ๆ ทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นและมีแรงจูงใจในการซื้อสินค้ามากขึ้น
4. มีสไตล์การขายที่แตกต่าง : ทำให้คนดูมีแรงจูงใจที่จะดูต่อและสนใจซื้อสินค้า
การใช้ลูกเล่นในการขายผ่านไลฟ์สด เช่น เกมส์จับฉลาก ขายแบบประมูล หรือการจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าแย่งกัน CF สินค้า จะทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นและอยากดูไลฟ์สดต่อ เพิ่มโอกาสทั้งการเพิ่มยอดคนดูและยอดขายในไลฟ์นั้นๆ! แอบมากระซิบว่า ในระบบจัมโบ้ไลฟ์มีครบทั้งหมดเลยน้า~
5. เข้าใจตลาดและความต้องการของลูกค้า : การศึกษาและเข้าใจตลาด
การเข้าใจตลาดหรือกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการขายสินค้าจะช่วยให้เราสามารถตั้งราคาและโปรโมตให้เหมาะสม ลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการขายสำเร็จ
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์ให้กับร้านค้าออนไลน์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 02-4590288
แหล่งข่าวอ้างอิง: https://www.businessweekly.com.tw/management/blog/3014405
ระบบดูดออเดอร์ Jambolive มาแชร์ตารางสีเสื้อมงคล
ต้อนรับปี 2567!
วันจันทร์
การงาน: เขียว
เงิน และ โชค: ส้ม น้ำตาลอ่อน
เสน่ห์ และ ความรัก: ขาว ครีม
กาลกิณี: แดง
วันอังคาร
การงาน: ม่วง เทาเข้ม
เงิน และ โชค: เงิน ทอง
เสน่ห์ และ ความรัก: ชมพู
กาลกิณี: เหลือง
วันพุธ
การงาน: ส้ม น้ำตาลอ่อน
เงิน และ โชค: ฟ้า น้ำเงิน
เสน่ห์ และ ความรัก: เขียว
กาลกิณี: ชมพูอ่อน ชมพูบานเย็น
วันพฤหัสบดี
การงาน: ฟ้า
เงิน และ โชค: เหลือง ครีม
เสน่ห์ และ ความรัก: ส้ม น้ำตาล
กาลกิณี: ม่วง ดำ
วันศุกร์
การงาน: เหลือง ขาว
เงิน และ โชค: เขียว
เสน่ห์ และ ความรัก: ฟ้า น้ำเงิน
กาลกิณี: น้ำตาลเข้ม เงิน
วันเสาร์
การงาน: เทาอ่อน น้ำตาล
เงิน และ โชค: แดง
เสน่ห์ และ ความรัก: ม่วง เทา ดำ
กาลกิณี: เขียว
วันอาทิตย์
การงาน: ชมพู
เงิน และ โชค: เทา ดำ
เสน่ห์ และ ความรัก: แดง
กาลกิณี: น้ำเงิน
เป็นยังไงกันบ้างคะกับสีเสื้อมงคล 2567 ที่ระบบดูดCFจัมโบ้ไลฟ์มาแชร์เพื่อนๆ ^__^ เซฟเก็บไว้ดูได้เลย ว่าวันไหนอยากเสริมเรื่องอะไรให้อุ่นใจ ขอให้เพื่อนๆมีความสุขในทุกๆวันในปี 2567 นะคะ~
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์ให้กับร้านค้าออนไลน์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 02-4590288
ต้องบอกเลยว่าในยุคนี้ "ขายของออนไลน์" นับวันยิ่งมีการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะการขายออนไลน์เป็นช่องทางที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด จะเห็นได้เลยว่าปัจจุบันมีเจ้าของธุรกิจจำนวนไม่น้อยเริ่มผันตัวมาทำออนไลน์กันมากขึ้น และเมื่อการแข่งขันในตลาดออนไลน์มีการแข่งขันที่สูงขึ้น เจ้าของธุรกิจต่างต้องหาตัวช่วยในการขายของออนไลน์เข้ามาช่วยทำให้ธุรกิจของตัวเองสามารถสร้างยอดขายได้สูงขึ้น
เช่นเดียวกับที่เมื่อไม่นานมานี้ ที่ไต้หวันได้มีการโปรโมตสินค้าท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการขายให้กับชุมชน โดยเชิญชวนคนดังและบุคคลที่มีชื่อเสียงจำนวนมากมาร่วมกิจกรรมไลฟ์สดขายสินค้า เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าในชุมชน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของไถจง
โดย นายจาง ฟง วง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองไถจง ไต้หวัน ได้ออกมาสนับสนุนการโปรโมตงานไถจงช็อปปิ้งเฟสติวัลที่กำลังจะมาถึงด้วยการทำงานร่วมกับระบบดูดออเดอร์ จัมโบ้ไลฟ์ (JamboLive) เพื่อเปลี่ยนการขายของแบบดั้งเดิมให้ไปสู่การขายที่ทันสมัยมากขึ้น ทั้งนี้ยังได้มีการเชิญชวนร้านค้าออนไลน์และร้านค้าที่เปิดแค่หน้าร้านที่ไม่ได้ขายแบบออนไลน์มาก่อนเข้ามาไลฟ์สดเพื่อเพิ่มยอดขายอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการเชิญชวนอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง ไปเยี่ยมชมร้านขนมของชื่อดังในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น Taitung Bakery, Nine Suns, Chen Yun Baoquan และ New Taitung Bakery เพื่อทำกิจกรรมไลฟ์ขายสินค้าและโปรโมตของขวัญสำหรับเทศกาลตรุษจีน
ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองไถจง กล่าวถึงความสำเร็จของขนมในไถจงที่ได้รับความนิยมทั่วทั้งเกาะไต้หวัน โดยนายจางได้กล่าวขอบคุณตลาดในถนนซีเยาว์ที่เป็นต้นกำเนิดของสินค้านี้ ทั้งนี้นางจางยังได้มีการกล่าวส่งเสริมให้ร้านค้าที่ยังขายสินค้าแบบเดิม ๆ หันมาขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น เพื่อทำให้ลูกค้าได้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้อีกด้วย โดยกิจกรรมการโปรโมตสินค้าผ่านสื่อออนไลน์อย่างงานไถจงช็อปปิ้งเฟสติวัลก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้นายจางได้กล่าวทิ้งทายว่า นี่คือครั้งแรกที่มีการจัดกิจกรรมไลฟ์สดขายสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขาย และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนให้ร้านค้าในชุมชนได้รู้จักและใช้โปรแกรมที่สมัยใหม่อย่างระบบดูดออเดอร์ จัมโบ้ไลฟ์ (JamboLive) เข้ามาช่วยทำให้การขายของเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
หากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในไทยกำลังมองหาระบบดูดออเดอร์ที่ครบครัน จัมโบ้ไลฟ์ ได้เข้ามาให้บริการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์ให้กับร้านค้าออนไลน์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 02-4590288
แหล่งข่าวอ้างอิง: Taichung City Government website
จะสิ้นปีแล้วแม่ค้าอย่างเรา ๆ ก็อยากจะมียอดสุดปัง โละสินค้าล้างสต๊อกก่อนไปเที่ยวต้อนรับปีใหม่กับครอบครัว, เพื่อน หรือคนรัก เพราะฉะนั้นวันนี้จัมโบ้ไลฟ์ขอมาแชร์ ! 3 กลยุทธ์เด็ดๆในการจัดโปรโมชั่น ที่จะช่วยให้คุณพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เพิ่มยอดขายปังปั๊วววว จะมีวิธีไหนกันบ้าง ไปดูกันเลย
1. กลยุทธ์ อัพเซลล์ (Upselling)
การอัพเซลล์ หรือ Upselling คือการที่ทำให้คือการที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากจ่ายเงินมากขึ้น มากกว่าตอนแรกที่พวกเขาได้วางแผนเอาไว้ว่าจะซื้อในตอนแรก โดยการขายแบบนี้เราจำเป็นจะต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า "เพิ่มเงินอีกแค่นิดเดียวก็ได้คุณภาพหรือได้ปริมาณที่มากขึ้น" ซึ่งเมื่อลูกค้ารู้สึกแบบนั้นแล้วก็จะทำให้ลูกค้ายอมที่จะจ่ายเงินมากขึ้นกว่าเดิม เรียกง่าย ๆ ว่าการใช้กลยุทธ์ อัพเซลล์ (Upselling) คือการขายแบบเนียน ๆ เป็นการขายแบบที่ไม่ควรคะยั้นคะยอหรือตื๊อมากเกินไป ควรจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขาซื้อนั้นมีคุณค่ามากกว่าในปริมาณเงินที่เพิ่มขึ้น
2. กลยุทธ์ ครอสเซลล์ (Cross-selling)
กลยุทธ์ ครอสเซลล์ หรือ Cross-selling คือการที่เราเสนอและทำให้ลูกค้าซื้อของที่พวกเขามีแนวโน้มที่จะสนใจ เช่น ในร้านเสื้อผ้ามีลูกค้ามาซื้อเสื้อกันหนาว แม่ค้าอาจจะถามว่าสนใจซื้อหมวกไหมพรมเพิ่มด้วยไหม เดี๋ยวลดให้ หรืออย่างเช่นในร้านเบอร์เกอร์ เวลาที่มีลูกค้ามาสั่งเบอร์เกอร์ พนักงานก็จะถามลูกค้าว่า อยากจะสั่งเครื่องดื่มไปเพิ่มด้วยไหม ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นพิเศษหากซื้อเบอร์เกอร์พร้อมเครื่องดื่ม โดยกลยุทธ์นี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพิ่มยอดขายได้จากการที่ขายจำนวนสินค้าที่มากขึ้น
3. กลยุทธ์ กฎ 100 (The Rule of Hundred)
กลยุทธ์ กฎ 100 หรือ The Rule of 100 คือการลดราคาสินค้าแบบมีนัยเวลาจัดโปรโมชั่นว่าจะตั้งลดราคาแบบเปอร์เซ็นต์ หรือ ลดราคาแบบจำนวนเงิน โดย คำนึงถึงราคาสินค้าว่ามีราคาสูงหรือต่ำกว่า 100
ถ้า:
ราคาสินค้าต่ำกว่า 100: เราควรลดราคาแบบ เปอร์เซ็นต์
ตัวอย่างเช่น หมวกราคา 90 บาท ใช้คำว่า ลด 15% ทำให้รู้สึกว่ามีส่วนลดมากกว่าบอกว่า ลด 13.5 บาท
ราคาสินค้าสูงกว่า 100: เวลาจัดโปรโมชั่นลดราคาควรลดเป็น จำนวนเงิน
ตัวอย่างเช่น ตุ๊กตาหมาสีน้ำตาล ราคา 500 บาท เวลา ถ้า ลดราคา 100 บาท ทำให้รู้สึกว่าได้ส่วนลดมากกว่าที่เขียนว่า ลด 20%
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ 3 กลยุทธ์เด็ดที่ทางจัมโบ้ไลฟ์เอามาแบ่งปันให้กับพ่อค้าแม่ค้า งานนี้คุณพ่อค้าแม่ค้าก็สามารถไปใช้ในการจัดโปรโมชั่นเพิ่มยอดขายปัง ๆ ส่งท้ายปี 2566 ได้แล้ว!
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ดูดออเดอร์ให้กับร้านค้าออนไลน์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://th.jambolive.tv/
โทร: 02-4590288
เคยสงสัยกันไหม เวลาไปดูไลฟ์ของร้านค้าออนไลน์ร้านอื่นๆทำไมเค้าขายยอดขายพรุ่งปรี๊ด แค่เอาสินค้าออกมาหน้าไลฟ์ พร้อมรหัสสินค้าก็รับยอดได้ง่ายๆ ลูกค้าก็ CF รัวๆ “จดออเดอร์กันยังไง” “ใช้ระบบอะไรจัดการออเดอร์” “รหัสสินค้าคืออะไร” นี่คงเป็นคำถามที่ลอยมาในหัว ของคุณพ่อค้าแม่ค้าตอนไปดูไลฟ์สด หรือ โพสขายของของร้านคู่แข่งร้านอื่นๆเพราะอย่างนั้น วันนีจัมโบ้ไลฟ์จะมาแชร์ว่าระบบดูด CF คืออะไรและข้อดีของการใช้ระบบดูด CF ให้กับทุกคนกันค่ะ!
ระบบดูด CF คืออะไร?
ระบบดูด CF หรือ ระบบดูดออเดอร์ คือระบบที่ช่วยดูด "รหัสสินค้า" ที่ลูกค้าพิมพ์รหัสสินค้าจากไลฟ์สด คอมเมนต์ใต้โพส Reels หรือ Inbox ของช่องทางในโซเชียลมีเดีย เข้าไปในตัวระบบโดยอัตโนมัติ ที่ทำให้การจัดการออเดอร์ตั้งแต่ สร้างรหัสสินค้า ดูดออเดอร์ สรุปยอดส่งไป Inbox จัดการการชำระเงิน ไปถึงการขนส่งจนถึงมือลูกค้า ให้ง่ายมากขึ้น ไม่ต้องมานั่งจดออเดอร์ด้วยมือเหมือนเดิมอีกต่อไป
รหัสสินค้าคืออะไร?
รหัสสินค้า คือ รหัสเฉพาะของแต่ละสินค้า ที่ สามารถสร้างขึ้นเพื่อความง่ายในการจัดเก็บออเดอร์ที่ลูกค้าทำการสั่งซื้อโดยพิมพ์รหัส CF เข้ามา เช่น CF01, กข02 จะเป็นตัวอักษรไทยหรืออังกฤษก็ได้ และในรหัสสินค้า ก็จะมีรูปแบบย่อย ที่จะเป็นรหัสแบ่ง เพื่อสินค้าที่มีรูปแบบต่างๆ เช่น สี, กลิ่น หรือ ไซส์ เป็นต้น
มาดูเหตุผลหลักๆ 5 ข้อทำไมถึงต้องใช้ ระบบดูดออเดอร์กัน!
1. จัดการระบบหลังบ้านให้เป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น
การทำธุรกิจออนไลน์บางทีก็งงและสับสน เพราะการจัดการไม่เป็นระบบ เดียวทำอันนู้นทีอันนี้ทีงงไปหมด ทำให้ข้อมูลตกหล่นสูญเสียรายได้ ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสายไลฟ์สด คงจะใช้เวลาเยอะไปกับการจัดการออเดอร์ที่มีเข้ามาอย่างทั้งเก่าและใหม่ การที่พ่อค้าแม่ค้าต้องใช้เวลามานั่งจัดการออเดอร์นั้น อาจจะทำให้เสียโอกาสในการขายสินค้าไป ดังนั้นการเลือกใช้ระบบจัดกาาหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพอย่าง JamboLive ระบบดูดออเดอร์ สามารถช่วยลดภาระงานในการจัดการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แอดมินและทีมงานทำงานได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น คนซื้อก็แฮปปี้คนขายก็แฮปปี้
2. ลดค่าใช้จ่าย
ทำธุรกิจใครๆก็อยากมีกำไร ดังนั้นการลดค่าใช้จ่ายเป็นหนึ่งในวิธีการเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจของคุณพ่อค้าแม่ค้า เพราะเมื่อมีระบบช่วยจัดการหลายๆอย่างให้ได้ คุณพ่อค้าแม่ค้าสามารถลดต้นทุนในการจ้างคนและเอาไปลงทุนในส่วนอื่นๆในธุรกิจขายของออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ดูดออเดอร์ครบไม่ตกหล่น
จดออเดอร์ด้วยคนบางทีก็ต้องยอมรับว่ามันมีการตกหล่นบ้าง เพราะงั้นให้การรับออเดอร์เป็นเรื่องง่ายในการขายของออนไลน์และไลฟ์สดด้วยระบบดูดออเดอร์อัตโนมัติ แบบ JamboLive ระบบดูดออเดอร์ เพียงลูกค้าพิมพ์รหัสสินค้าที่ถูกต้อง ระบบก็จะดูดออเดอร์เข้าสู่ระบบในทันที ไม่ต้องมานั่งจดมือหรือพิมพ์เอาเอง
4. เปิดบิลง่าย มีข้อความสรุปยอดอัตโนมัติส่งถึงแชทลูกค้าแบบทันที
พ่อค้าแม่ค้าหลายคนอาาจจะเคยเป็นกันที่ว่า นั่งพิมพ์สรุปยอดให้ออเดอร์ของลูกค้าแต่ละคนที่ทำการสั่งซื้อเข้ามาแต่กลับมีพิมพ์ตกหล่น จึงเสียคำสั่งซื้อสินค้าไปแบบฟรีๆ แต่เมื่อใช้ระบบดูดออเดอร์ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเพราะ หลังจากที่ลูกค้าพิมพ์รหัสสินค้าเพื่อ CF สินค้านั้นๆ ระบบจะส่งข้อความสรุปยอดแบบอัตโนมัติไปในแชทของลูกค้าเพื่อสรุปยอดของรายการสินค้าในทันที โดยที่คุณพ่อค้าแม่ค้าไม่ต้องมานั่งพิมพ์เองให้กับลูกค้าทีละคน
จัดการขนส่งสินค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
ระบบจัมโบ้ไลฟ์สามารถทำ API ให้กับพัสดุสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าได้อย่างทันท่วงที ไม่ต้องกรอกข้อมูลทีละอันที่ขนส่ง หรือต้องไปต่อคิวนาน ระบบดูดออเดอร์สามารถสร้างและพิมพ์ใบปะหน้าพัสดุได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก จากนั้นก็ปริ้น แปะ และนำพัสดุไปส่งที่ขนส่งได้เลย
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ระบบดูดออเดอร์ให้กับร้านค้าออนไลน์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://jambolive.tv/th/
โทร: 02-4590288
การ Live Commerce ผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยแต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดีที่แตกต่างกัน สำหรับร้านค้าที่กำลังจะเข้ามาไลฟ์เพื่อเพิ่มรายได้จากการขายออนไลน์ ที่กำลังฮิตขณะนี้
ในบทความนี้จัมโบ้ไลฟ์จะมาสรุปจุดเด่นของ Live Commerce บนแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Facebook, YouTube, TikTok, Instagram, และ LINE ว่าจะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และแต่ละแพลตฟอร์ม เหมาะกับสินค้าหรือบริการประเภทไหน
การไลฟ์บน Facebook (FB LIVE)
เป็นช่องทางยอดนิยมมากที่สุด และด้วยความที่มีขีดจำกัดค่อนข้างน้อย และฐานลูกค้ามีแพร่หลายในทุกกลุ่ม ทุกสินค้า
จุดเด่น:
• มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย สามารถขายสินค้าและบริการได้ทุกประเภท
• สามารถบันทึก เพื่อเก็บให้ลูกค้าตาม CF ในภายหลังได้ โดยระบบดูดออเดอร์จัมโบ้ไลฟ์ สามารถตั้งค่าเพื่อดูดออเดอร์จากคอมเม้นต์หลังจากไลฟ์จบได้
• มีการโฆษณา หรือรูปแบบการยิงแอดที่พัฒนาตลอด อย่างเช่นตัวของ CTX (Click-to-Message Ads) ผู้เห็นโฆษณาสินค้านั้น สามารถ CF สินค้าผ่านโฆษณาได้ และพ่วงโดยใช้ระบบดูดออเดอร์อย่างจัมโบ้ไลฟ์ ช่วยสรุปยอด ก็ทำให้ออเดอร์ไม่หลุดแน่นอน
สินค้าที่เหมาะแก่การขายบน Facebook
• สินค้าทุกประเภท เพราะกลุ่มลูกค้ามีทุกแบบ
การ Live บน TikTok
จุดเด่น:
• โฆษณาสั้น คอนเท้นต์ย่อยง่าย ดูง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ
• สามารถขายแบบฮาร์ดเซลล์ได้เลย สื่อสารแบบตรงไปตรงมา ไม่ต้อง Tie-in
• ขายผ่าน Tiktok shop และกดใส่ตะกร้าเหลืองได้ทันที
สินค้าที่เหมาะแก่การขายบน TikTok
• สินค้าที่ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย เช่นเครื่องสำอาง
• สินค้าของกิน ขนมต่าง ๆ ที่เด็กวัยรุ่นชอบ
• หรือหมวดบริการ ใครมีสกิล “ดูดวง” สามารถดูดวงได้ใน TikTok Live ! (กำลังมาแรงเว่อร์นะ บอกเลยยย)
การ Live บน Instagram
บอกเลย ช่องนี้เป็นการรวมสายแฟชั่น และการโปรดักชั่นที่ดี ที่เริ่ด แม้แต่การไลฟ์ ก็ยังสามารถบ่งบอกไลฟ์สไตล์เราได้เช่นกัน ซึ่งสินค้าเหล่านี้ควรนำเสนอสั้น ๆ ไม่น่าเบื่อ ดึงคีย์เวิร์ดออกมาขาย โดยจุดเด่น จะเป็นการขายตามแฮชแท็ก ซึ่งช่วยทำให้เข้าถึงได้ดีขึ้นด้วย
สินค้าที่เหมาะแก่การขายบน Instagram
• สินค้าประเภทแฟชั่น เช่นเสื้อผ้า รองเท้า
• สินค้าไม่ต้องอธิบายเยอะ ใช้ภาพสวยขายได้เลย
การ Live บน LINE
การไลฟ์บนไลน์นั้น มีศักยภาพสูงมาก โดยเฉพาะใน Line Official หรือบัญชีทางการที่ลูกค้าเพิ่มเป็นเพื่อนกับเราแล้ว เพราะการขายสินค้าดังกล่าวนั้นสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าที่สนใจเราได้ทันที พร้อมมีระบบชำระเงินที่สะดวก อย่าง Rabbit Linepay สามารถผูกบัตรเครดิตได้ (โดยหักค่าธรรมเนียม 3% *ข้อมูล ณ ปี 2023)
สินค้าที่เหมาะแก่การขายบน LINE
• สินค้าเกือบทุกประเภท ซึ่งเหมาะกับการเป็นช่องทางสำรอง มากกว่าขายช่องทางหลัก ช่องทางเดียว เพราะอย่างไร ก็ควรเปิดการมองเห็นผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียมาก่อน แล้วจึงเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพที่สนใจเรานั่นเอง
การ Live บน YouTube
การไลฟ์บนช่องทางนี้ ส่วนใหญ่ที่เราคุ้นเคย จะเป็นการไลฟ์รายการ หรือออกอากาศข่าวต่าง ๆ หรือการไลฟ์ที่ให้ข้อมูลสินค้า/ บริการได้เยอะ ๆ ข้อมูลจัดแน่น จัดเต็ม รวมถึงรีวิวสินค้าต่าง ๆ ที่ต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการประกอบการตัดสินใจ
สินค้า/ บริการที่เหมาะกับ YouTube Live
• บริการประเภทความรู้ หรือข่าวสารต่าง ๆ
• สินค้าที่ต้องการข้อมูล หรือสเปคเพิ่มเติมก่อนการซื้อ ที่ต้องการถาม-ตอบแบบสด เพื่อไขข้อข้องใจกับผู้รีวิวผลิตภัณฑ์
เห็นแล้วใช่มั้ยว่า Live Commerce นั้นสุดฮิตมากเว่อร์ เพราะทุก ๆ แพลตฟอร์มตอนนี้ก็มีไลฟ์เป็นของตัวเองแล้ว
แต่ถึงอย่างไร ในแต่ละช่องทาง กลุ่มผู้ชม และกลุ่มลูกค้าก็ยังมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสินค้า/ บริการ และกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการสื่อสาร
ทั้งนี้เราควรเลือกให้เหมาะกับแบรนด์สินค้าและบริการที่สุดน๊า
ส่วนใครไม่อยากลองผิดลองถูกเยอะ สามารถลองใช้โซเชียลมีเดีย ที่มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายที่สุดอย่าง Facebook เพื่อเรียนรู้ตลาดของสินค้าตนเองเบื้องต้นได้น๊า และค่อย ๆ ต่อยอดไปในโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ที่ใช่ ก็ยังเริ่ดน๊า
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ระบบดูดออเดอร์ให้กับร้านค้าออนไลน์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://jambolive.tv/th/
โทร: 02-4590288
ในปี 2023 เป็นต้นไป จากที่รู้กันเรื่องของกระแสข่าวที่บอกว่า “โดนปิดกั้นการมองเห็น” หรือ “ถูกลดการมองเห็น” ที่เราได้ยินกันอย่างประปรายกันมาบ้างแล้ว
รู้หรือไม่ว่า ถ้าหากเราไม่เคยทำผิดข้อกำหนดของ facebook ก็ไม่ถูกลดการมองเห็นแน่นอน
แต่จริง ๆ แล้ว ที่ถูกลดการมองเห็น ก็เพราะ การที่มีร้านค้ามากขึ้น แต่สัดส่วนของลูกค้ายังดูเท่าเดิม การดูก็เลยถูกเฉลี่ยไปให้ร้านอื่น ๆ ที่เข้ามาด้วย
เหมือนตลาดนัดที่มีผู้ขายมากรายมารวมกันนั่นเอง competitiveness หรือการแข่งขันก็สูงขึ้น
และนี่แหละก็เป็นสาเหตุที่แท้จริงว่า ทำไมการมองเห็นของเราถึงน้อยลง
เจ้า Facebook ก็เลยบอกเหล่าแม่ค้าว่า เอ้า ใครอยากให้ร้านเด้ง ร้านเด่นขึ้นมาในตลาด ก็สามารถทำโฆษณาได้นะ...
Facebook จึงมีฟีเจอร์ยิงแอดตัวใหม่ สำหรับเปิดการมองเห็นการเพจเราได้ดีกว่าเดิม
คือตัว Facebook Live Boost การเปิดบูสไลฟ์สด และการทำ Click to message (การสรุปยอดผ่านโฆษณาแบบส่งข้อความ) นั่นเอง
เริ่มกันที่ Facebook Live Boost ก่อน
โดยหลักการทำงานคือ หากอยู่บนหน้าฟีดของการ Live สด ก็จะขึ้นเป็นลำดับแรก ๆ และตรงกับความสนใจ หรือ Target audience ของลูกค้า
ถ้าเปรียบเทียบก็คือ เราจะเห็นไลฟ์คนนี้เด้งเข้ามายั่วน้ำลายกันจุก ๆ
ที่สำคัญ ค่าใช้จ่ายในตอนนี้ยังค่อนข้างไม่แพง แอบกระซิบว่า คนยังใช้ไม่เยอะ และการซื้อ Keywords ก็ยังเป็น bidding ก็ยังไม่แพงจนเกินไป
โดยจากสถิติ สามารถโปรโมตให้เห็นมากขึ้นถึง 10 เท่า (อ้างอิงจากประสบการณ์ลูกค้าจัมโบ้ไลฟ์ในสิงคโปร์และไต้หวัน)
ส่วน Click to message
ตัวนี้จะคล้ายกับของเดิม แต่ต่างตรงที่ การส่งข้อความทักทางร้าน สามารถปิดการขายได้ทันที ไม่ต้องแชทคุยกับร้านค้า ลูกค้าอินโทรเวิร์ดชอบม๊ากกกก 555
เพราะอย่างที่รู้กันว่า นาทีทองปิดการขายร้านค้านั้น ไม่เกิน 30 นาที ซึ่งถ้าฟีเจอร์นี้เข้ามา ลูกค้า CF รหัสของสินค้าที่ถูกยิง Ads ก็จะสามารถจ่ายเงิน รอรับสินค้าที่บ้านได้เลยทันที
ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 ฟีเจอร์โฆษณาใหม่นี้ ควรใช้พ่วงกับระบบการทำงานหลังบ้าน และยิ่งตัว Facebook Ads – Click to message (CTM, CTX) เนี่ย ยิ่งต้องมีตัวช่วยเป็นระบบดูดออเดอร์ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Meta – Facebook ซึ่ง จัมโบ้ไลฟ์ ก็เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์เช่นกันจ้า !
หากสนใจโฆษณาผ่านไลฟ์ เพจ และโพสต์ขายของ ติดต่อจัมโบ้ไลฟ์ได้เลยน๊า Facebook jamboliveth
(https://www.facebook.com/jamboliveth) หรือ Line @jamboliveth
และยังมีเทคนิคเปิดการมองเห็นอื่น ๆ ที่ไม่เพียงแค่การยิงแอดมาฝากอีกเพียบ เพราะนโยบายของ facebook
นั้นก็คือ การทำให้ Social Media เป็นสังคมที่มีคุณภาพ และมีความรู้ความเข้าใจ
โพสต์ที่มีประโยชน์ ที่มีสาระจึงสำคัญเช่นกันน๊า
สนใจใช้ระบบดูด CF ไลฟ์สด ระบบดูดออเดอร์ให้กับร้านค้าออนไลน์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
LINE: @jamboliveth (มี@)
INBOX: http://m.me/jamboliveth
WEBSITE: https://jambolive.tv/th/
โทร: 02-4590288
ร้านค้าออนไลน์หลายร้าน คิดว่าการทำตลาดมันยุ่งยาก แต่รู้หรือไม่ การตลาดอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ เพราะถ้าพูดง่าย ๆ คือ การเล่นกับพฤติกรรมของลูกค้า เอาชนะใจเค้าอย่างไร เหมือนเราต้องมีเทคนิคหรือ Tactic ที่จะไปถึงเป้าหมายนั่นเองค่ะ แต่ที่ทำให้แม่ค้าพ่อค้ากลัวกัน นั่นก็คือ ศัพท์มาเก็ตติ้ง ที่ฟังแล้วดูยิ่งใหญ่ ดูยาก แต่วันนี้จัมโบ้ไลฟ์จะมาสรุปศัพท์มาเก็ตติ้ง ที่เราเจอบ่อย ๆ กันค่ะ Awareness (การสร้างการรับรู้) การสร้างการรับรู้ คือการทำให้คนรู้จักกับแบรนด์ สินค้า หรือบริการของเรามากขึ้น รู้ว่าเราทำอะไร ที่ไหน อย่างไร โดยรู้จักเราแบบผิวเผินก็พอ โดยสิ่งที่จะทำให้คนจำในขั้นตอนของ Awareness คือ การมองเห็นและรับรู้ผ่านการมองเห็น (สื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่อออนไลน์) และการได้ยิน (สปอตวิทยุ โฆษณา TV) ลึกไปกว่านั้น รับรู้ประโยชน์ของสินค้าผ่านคีย์เวิร์ด หรือที่เรียกว่า Key Message สินค้า หรือ Key Selling point (จุดขายของสินค้า) รวมถึง Slogan ที่บ่งบอกแบรนด์นั้น ๆ เลย ยกตัวอย่างเช่น • แบรนด์ AAA เสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี | ใส่แล้วสวย เกาหลีเกาใจ • แบรนด์ BBB อาหารแมวนำเข้า | อาหารคุณภาพ เพื่อน้องแมวที่คุณรัก สุขภาพดี • แบรนด์ ABCD เครื่องประดับจากคริสตัล | มอบความพรีเมียมทุกรายละเอียด การมีส่วนร่วม (Engagement) การมีส่วนร่วม หรือเอนเกจเม้นท์ นั่นหมายถึง ลูกค้าเป้าหมายของเรา หรืออาจจะไม่ใช่ลูกค้าเป้าหมายของเรามีความสนใจ และมีส่วนร่วมในการแสดงความรู้สึกกลับมา เช่นการแชร์ / การคอมเม้นต์ เป็นต้น SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หากใครมีเว็บไซต์ต้องรู้ โดยหัวใจของ search engine นั่นคือการค้นหาตามคีย์เวิร์ดนั่นเองค่ะ โดยสิ่งที่ดีที่สุดคือ การทำบทความ SEO ลงในเว็บไซต์ จะทำให้ระบบค้นหาเรียนรู้ว่า “ของ ๆ ฉันนี่แหละ มีประโยชน์สำหรับคนอื่น” และมี “คีย์ที่คนชอบหา” เกี่ยวเยอะ ๆ จะทำให้เว็บไซต์เราถูกสนใจได้ Lead to sale (นำไปสู่การปิดการขาย) คือการที่สินค้า หรือบริการนั้น ๆ มีโอกาสที่จะถูกสนใจ เพื่อนำไปสู่การปิดการขายสำเร็จนั่นเองค่ะ โดยเครื่องมือ และเทคนิค ในการหลีดไปสู่การได้ยอดขายมีหลายแบบ • การทำโปรโมชัน ส่วนลดต่าง ๆ • การนำเสนอสินค้าที่ตรงใจให้ลูกค้า ระบบดูดออเดอร์จัมโบ้ไลฟ์ มีการจัดการโปรโมชันรายลูกค้า และการจัดประเภทสินค้า และลูกค้าเพื่อให้โปรโมตสินค้าได้แบบไม่งง และช่วยปิดการขายได้ง่ายขึ้น แถมไม่มีการยิงโฆษณาสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้อง กวนใจลูกค้า เสี่ยงถูกบล็อก ติดต่อ Line @jamboliveth Loyalty (ความจงรักภักดีต่อแบรนด์/สินค้า) ไม่ว่าจะมีคู่แข่งสักเท่าไหร่ กลุ่มลูกค้าที่จงรักภักดีต่อสินค้า หรือบริการของเรา ก็ยังเชื่อว่าของเราดี และบอกต่อให้ผู้อื่นมาใช้ได้อีก แต่จะทำอย่างไรให้ปังแบบนี้ล่ะ ? • เข้าใจความต้องการลูกค้า • ส่งสินค้า/บริการที่ดีให้เสมอ • ซื่อสัตย์กับลูกค้า ตรงไปตรงมา Word of mouth (การบอกต่อ) Word of mouth คือการบอกต่อสินค้า/บริการเราแบบปากต่อปาก ซึ่งถ้าเรียก นั่นก็คือ จุดสุดยอดการกลยุทธ์การตลาดที่ทุกคนฝันถึง เพราะวิธีนี้ ไม่ต้องจ่ายตัง และเชื่อถือได้ เพราะผู้ที่บอกเป็นคนที่เคยลองใช้จริง และไม่ต้องเสียเงินมหาศาลในการโปรโมต และเทคนิคนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นเทคนิคที่ยั่งยืนที่สุด Organic Reach (จำนวนคนเห็นแบบไม่เสียเงิน) ออแกนิก หมายความว่า ผู้ชมเห็นโพสต์ หรือสื่อคอนเท้นท์ต่าง ๆ เราทางโซเชียลมีเดีย แบบไม่เสียเงิน และนับ 1 คน ต่อ 1 รีชเลย ซึ่งวิธีการทำคอนเท้นท์ที่จะทำให้ออแกนิกรีชสูง จะเป็นคอนเท้นท์ประเภทดังนี้ • คอนเท้นท์ที่มีประโยชน์กับลูกค้า • Real-time / Viral marketing หรือการตลาดในกระแส Impression (การมองเห็น) จำนวนครั้งที่คนเห็นโฆษณา หรือคอนเท้นท์โพสต์ หรือวีดีโอสินค้า/บริการของเรา โดยนับเป็นจำนวนครั้งการเห็น เช่น น้องเอ มองเห็นโพสต์นี้ 100 ครั้ง ก็จะนับเป็น 100 Impressions เป็นต้น B2B และ B2C (การขายระหว่างบริษัท และการขายถึงลูกค้า) B2B ย่อมาจาก Business to business ซึ่งก็คือการขายแบบการเจรจาระหว่างบริษัท ต่อบริษัท และ B2C คือ Business to customers ซึ่งจะเป็นการขายสินค้า/ บริการไปถึงลูกค้ารายย่อย หรือผู้ใช้งานจริง โดยมีความสำคัญทั้งคู่ แต่ส่วนใหญ่ ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ หรือไลฟ์คอมเมิร์ซ จะเจาะกลุ่มลูกค้าแบบ B2C ส่วนใหญ่ เพราะทุกคนมีอินเตอร์เน็ตในมือ และสามารถจับจ่ายซื้อได้โดยตรงทันที Service Level (ระดับการบริการลูกค้า) โดยคำว่า Service level ไม่ได้พบแค่ในสายของ Marketing แต่ยังพบในสายของการจัดการหลังบ้าน หรือโซ่อุปทานด้วย หรือว่ากันง่าย ๆ ก็คือ การรักษาการบริการลูกค้าที่ดี ไม่ได้มีเพียงแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ทุกฝ่ายมีความสำคัญในการจัดการทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การดูแลบริการหลังการขาย ความเร็วในการบริการ คุณภาพสินค้า เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพอใจสูงสุด และการมี Service Level ที่ดี สามารถนำไปสู่การกลับมาซื้ออีกครั้ง ความจงรักภักดีต่อร้านค้า และรวมถึงการบอกต่อสินค้าและบริการของเรา (ซึ่งเป็นของแถมที่เริ่ดมากนะ บอกเลย) และยังมีคีย์เวิร์ดอีกมากมาย ที่ร้านค้าออนไลน์จะต้องเจอในโลกของการขายออนไลน์ และจัมโบ้ไลฟ์จะมาอัพเดตเรื่อย ๆ สำหรับร้านค้าออนไลน์น๊า และต้องมีตัวช่วยที่ดีในการจัดการหลังบ้าน เพื่อให้ยอดขายพุ่งขึ้นในทุกวัน และมีความยั่งยืนในการขายสินค้า ท่ามกลางคู่แข่งมากมาย ระบบดูดออเดอร์ พร้อมฟีเจอร์ที่คิดแบบการตลาด เพื่อผลักดันยอดขายแบบยั่งยืน Inbox >> http://m.me/jamboliveth ไลน์ @jamboliveth คลิก https://lin.ee/TZLkjfg
ดูเพิ่มเติม...พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนเริ่มนิยมหันมาขายออนไลน์กันแล้วใช่ไหมคะ บางคนอาจจะเคยเจอกับการที่ลูกค้าโอนเงินแล้วไม่เข้าบัญชี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโอนเงินผิดเลขบัญชี หรือเวลาเราไลฟ์ขายของอยู่แล้วเผลอบอกเลขบัญชีผิดไป วันนี้จัมโบ้ไลฟ์จะมาแบ่งปัน 3 เหตุผลว่าทำไมพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ถึงควรหันมาใช้ระบบสแกนจ่าย 1. พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มผู้บริโภคหลักในยุคสมัยนี้ คือกลุ่ม Gen-Y หรือ กลุ่มที่เติบโตมากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างเช่น Facebook หรือ Mobile-banking รวมไปถึงระบบการสแกนจ่าย นอกจากนั้นคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มมีกำลังซื้อและมีการใช้จ่ายเยอะมากที่สุด ดังนั้นหากร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ หันมาใช้ระบบการสแกนจ่ายได้มากขึ้น ก็จะสามารถจับผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้เยอะขึ้น 2. สะดวกสบายปิดยอดขายได้อย่างรวดเร็ว กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนคงจะเคยเจอกับ "การยกเลิกสินค้า" ที่มีเหตุผลมาจากปัจจัยต่าง ๆ ใช่ไหมคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มสินค้าที่เก็บเงินปลายทาง ส่งไปทีไรถูกส่งกลับทุกที สิ่งนี้มีสาเหตุมาจาก "อารมณ์การใช้จ่าย" ของลูกค้าที่เปลี่ยนไปนั่นเองค่ะ หากลูกค้าเปลี่ยนใจขึ้นมาก็อาจจะยกเลิกสินค้าก่อนที่จะได้ทำการชำระเงินได้ ดังนั้นหากเรามีระบบสแกนจ่าย ที่สามารถกระตุ้นให้ลูกค้าจ่ายเงินได้เร็วมากขึ้น ก็จะช่วยลดปัญหาตรงนี้ได้นั่นเองค่ะ 3. มีโอกาสเติบโตในอนาคตมากขึ้น แน่นอนว่าในปัจจุบัน ธนาคารส่วนใหญ่เริ่มที่จะผลักดันระบบการสแกนจ่ายหรือ E-payment มากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้าเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางการของจ่ายเงินแบบออนไลน์ ดังนั้นหากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าต้องการที่จะกระตุ้นยอดขาย จำเป็นที่จะต้องติดตามเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้ทันและใช้ระบบดูดออเดอร์ที่มีประสิทธิภาพอย่าง JamboLive ซึ่งมีระบบสแกนจ่ายที่มีประสิทธิภาพ และระบบหลังบ้านที่คอยดูแลเหล่าพ่อค้าแม่ค้าอย่างใกล้ชิด นอกจากจะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ปิดการขายได้เร็วและสะดวกสบายแล้ว ยังช่วยให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถตรวจสอบสลิปปลอมได้ด้วยนั่นเองค่ะ ——————————————————————————————————— สนใจทดลองระบบดูดออเดอร์ฟรี! JamboLive Thailand พร้อมให้คำปรึกษาการตลาดออนไลน์ แชร์เคล็ดลับการขายของออนไลน์ให้ปัง รวมทั้งเคล็ดลับการเพิ่มยอดขาย และ เทคนิคไลฟ์สด Inbox >> http://m.me/jamboliveth ไลน์ @jamboliveth คลิก https://lin.ee/TZLkjfg
ดูเพิ่มเติม...การขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จนั้นนอกจากจะต้องมีสินค้าที่มีคุณภาพและบริการหลังการขายที่ดีแล้ว ระบบการขนส่งก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน วันนี้จัมโบ้ไลฟ์จะมาแชร์เคล็ดลับว่าทำไมพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จึงควรให้ความสำคัญกับระบบขนส่งกันค่ะ 1. เพราะการขนส่งคือสะพานเชื่อมร้านค้าไปสู่ลูกค้า พ่อค้าแม่ค้าหลายคนคงไม่อยากให้สินค้าเกิดความเสียหายระหว่างทางไปถึงมือของลูกค้าใช่ไหมคะ การเลือกระบบขนส่งที่ดีนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากสินค้าที่ส่งไปถึงลูกค้าเกิดความเสียหายล่ะก็ ลูกค้าบางท่านอาจจะมีความคิดในแง่ลบกับร้านค้าเหล่านั้นไปเลย นอกจากนั้นการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจกับการซื้อสินค้าจากร้านของคุณมากขึ้น 2. ค่าส่งที่แพงเกินไปอาจทำให้กำไรของเราน้อยลง แน่นอนว่าหลาย ๆ ร้านเลือกที่จะผลักค่าส่งสินค้านี้ให้กับลูกค้าใช่ไหมคะ แต่ร้านค้าออนไลน์บางส่วนก็เลือกที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอง ดังนั้นหากเราไม่คำนวนค่าขนส่งดี ๆ ละก็เราอาจจะสูญเสียกำไรไปอย่างไม่รู้ตัวเลยก็ได้นะคะ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ถึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องการขนส่งมากขึ้น 3. ระบบขนส่งที่มีปัญหาส่งผลถึงความพอใจของลูกค้า การเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่มีระบบการติดตามสินค้า (tracking system) ที่ดี จะส่งผลให้เราสามารถติดตามสินค้าได้อย่างสม่ำเสมอตลอดจนสินค้าไปถึงมือของลูกค้า หากว่าสินค้าเกิดความล่าช้าล่ะก็ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็ยังสามารถที่จะแจ้งให้ลูกค้ารับทราบได้อย่างทันเวลา ส่งผลให้ความพึงพอใจของลูกค้านั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 4. เพราะขั้นตอนการขนส่งเป็นขั้นตอนที่เสียเวลาที่สุด พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสายไลฟ์สด คงจะยุ่งเกี่ยวกับการจัดการออเดอร์ที่มีเข้ามาอย่างสม่ำเสมอทั้งเก่าและใหม่ใช่ไหมคะ การที่พ่อค้าแม่ค้าต้องสละเวลามาจัดการเรื่องขนส่งนั้น อาจจะทำให้เสียโอกาสในการขายสินค้าไปมากพอสมควร ดังนั้นการเลือกใช้ระบบช่วยเหลือหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพอย่าง JamboLive ระบบดูดออเดอร์ ที่มีระบบ API ช่วยสร้างใบปะหน้า ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไม่เสียเวลากรอกเลขส่งลูกค้าเอง พร้อมเรียกเข้ารับ ไม่ต้องเสียเวลารถติด พร้อมการแจ้งเตือนลูกค้าอัตโนมัติหลังจากสินค้าถูกจัดส่งแล้ว เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียวเลย ——————————————————————————————————— สนใจทดลองระบบดูดออเดอร์ฟรี! JamboLive Thailand พร้อมให้คำปรึกษาการตลาดออนไลน์ แชร์เคล็ดลับการขายของออนไลน์ให้ปัง รวมทั้งเคล็ดลับการเพิ่มยอดขาย และ เทคนิคไลฟ์สด Inbox >> http://m.me/jamboliveth ไลน์ @jamboliveth คลิก https://lin.ee/TZLkjfg
ดูเพิ่มเติม...พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนคงจะเคยเจอปัญหาเวลาขายของออนไลน์แล้วมียอดขายที่ถล่มทลาย แต่พอสรุปผลประกอบการสิ้นเดือนทีไร กำไรจากการขายของมันน้อยกว่าที่คิดไว้เยอะเลยใช่ไหมคะ วันนี้จัมโบ้ไลฟ์จะมาไขข้อข้องใจ จากเสียงบ่นของพ่อค้าแม่ค้ากันว่าที่จริงแล้วมันมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่นะ? จริง ๆ แล้วสาเหตุหลักของกำไรที่หายไปส่วนใหญ่นั้น มาจากค่าใช้จ่ายจุกจิกที่เรามองข้ามไปค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายที่แอบซ่อนอยู่นี้เองที่ทำให้กำไรจากการขายออนไลน์ของเราลดลงอย่างเห็นได้ชัด ว่าแต่ค่าใช้จ่ายพวกนี้มีอะไรบ้างล่ะ? 1. ค่ากล่องพัสดุที่มีหลากหลายไซส์ การคำนวนค่าส่งพัสดุสินค้าที่มีหลายไซส์นั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดและซับซ้อนสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนและในบางครั้งหากมีออเดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในการคำนวณค่าใช้จ่ายจนกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้กำไรของเราลดลงได้นั่นเองค่ะ 2. การ์ดโปรโมตร้าน ในยุคนี้ใคร ๆ ก็ต้องเคยเห็นการ์ดโปรโมตร้านกันใช่ไหมคะ เป็นหนึ่งในเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจดจำร้านค้าต่าง ๆ ได้มากขึ้น ยิ่งการ์ดโปรโมตร้านค้ามีความสวยและมีความน่าสนใจมากเท่าไหร่ ก็มีสิทธิ์ที่ลูกค้าจะนึกถึงร้านค้าของเราเป็นอันดับแรก แต่รู้หรือไม่ว่าการ์ดเหล่านี้น่ะมีราคาที่ค่อนข้างสูงเลยนะ และเนื่องจากตัวการ์ดไม่ใช่สินค้าหลัก อาจจะทำให้บางทีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ลืมคิดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงไปด้วยค่ะ 3. ค่าขนส่งสินค้าด้วยตัวเอง หากเราใช้บริการขนส่งสินค้า แน่นอนว่าเราก็สามารถที่จะคำนวนราคาค่าส่งได้อย่างง่ายดายเลยใช่ไหมคะ แต่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนก็นิยมขับรถไปส่งสินค้าด้วยตัวเอง ซึ่งบางร้านก็ต้องขับรถไปหลายกิโลเลยนะ ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการขนส่งสินค้าด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมันรถ ค่าเสื่อมสภาพเครื่องยนต์ หรือค่าเสียเวลาที่เกิดขึ้น ล้วนแต่เป็นค่าใช้จ่ายที่หากเราไม่จดไว้ดี ๆ ล่ะก็ สามารถตกหล่นได้อย่างง่ายได้เลยค่ะ เพราะฉะนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ลืมคิดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปด้วย 4. ค่าระบบตรวจสลิป ร้านค้าออนไลน์กับมิจฉาชีพนั้น ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่หนีกันไม่พ้น เพราะฉะนั้นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รุ่นใหม่ จำเป็นที่จะต้องรู้ทันกลโกงของบรรดาเหล่ามิจฉาชีพ และใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ในการป้องกันการโกงเหล่านี้ หนึ่งในนั้น คือ ระบบตรวจสลิป ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสลิปปลอมนั้นเป็นเทคนิคยอดนิยมที่เหล่ามิจฉาชีพนั้นใช้กัน ถ้าหากว่าเหล่าพ่อค้าไม่ค้าไม่ได้มีการตรวจสอบสลิปที่ดีก่อนส่งสินค้า ก็อาจจะสูญเสียเงินได้เป็นจำนวนมาก แต่ถ้าหากใช้บริการระบบตรวจสลิป ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้ามองไม่เห็นรวมอยู่ด้วยนะ 5. ค่าระบบช่วยทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่ายิงโฆษณา หรือ ระบบช่วยขายสินค้าต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบที่ต้องเรียกเก็บเงินอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ โดยเฉพาะเหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่ไลฟ์ขายของไปด้วยตรวจสลิปไปด้วยนั้น คำนวนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ยากขึ้น และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กำไรของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าหายไปโดยที่ไม่รู้ตัวนั่นเองค่ะ และนี่ก็คือสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หายไปโดยที่ไม่รู้ตัว แม้ยอดขายจะพุ่งทะยานก็ตาม เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ระบบหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพอย่าง JamboLive ก็จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ขายของได้อย่างมีกำไรอยู่ตลอดเวลานั่นเองค่ะ นอกจากจะช่วยให้กำไรไม่หายไปไหนแล้ว JamboLive ยังมีระบบดูดออเดอร์ที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้กับทางร้านค้าของพ่อค้าแม่ค้าทุกท่านอีกด้วยค่ะ ——————————————————————————————————— สนใจทดลองระบบดูดออเดอร์ฟรี! JamboLive Thailand พร้อมให้คำปรึกษาการตลาดออนไลน์ แชร์เคล็ดลับการขายของออนไลน์ให้ปัง รวมทั้งเคล็ดลับการเพิ่มยอดขาย และ เทคนิคไลฟ์สด Inbox >> http://m.me/jamboliveth ไลน์ @jamboliveth คลิก https://lin.ee/TZLkjfg
ดูเพิ่มเติม...เป็นหนึ่งในประเด็นฮิตที่น่าสนใจในวงการพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รุ่นใหม่ สำหรับคำถามที่ว่า ไลฟ์สดหน้าเพจ หรือ ไลฟ์หน้า Facebook ส่วนตัว วิธีไหนจะเปิดการมองเห็นได้เยอะกว่ากัน? จัมโบ้ไลฟ์พร้อมจัดเต็มบอกเคล็ดลับการไลฟ์สดว่า "การไลฟ์ผ่านหน้าเพจ" นั้นมียอดการมองเห็นที่เยอะกว่าแน่นอน ว่าแต่มันมีสาเหตุมาจากอะไรล่ะ มาดูกัน 1. ช่วยเปิดการมองเห็นของไลฟ์ เพิ่มยอดคนดูได้เยอะขึ้น แน่นอนว่าหลายคนอาจจะเคยเห็นฟังชั่นของ Facebook ที่เรียกว่า Watch ผ่านตากันมาบ้าง ซึ่งฟีเจอร์นี้เป็นการรวบรวมการถ่ายทอดสดจากพ่อค้าแม่ค้าทั่วประเทศบนแพลตฟอร์มเฟสบุ๊คไว้ในที่เดียวกัน แล้วถ้าอยากเข้าร่วมด้วยต้องทำยังไงล่ะ คำตอบก็คือ "การไลฟ์สดผ่านเพจ" ของเรานั่นเอง เพราะจะมีแค่พ่อค้าแม่ค้าที่ไลฟ์ผ่านเพจเท่านั้นจึงจะถูกทาง Facebook รีวิวและอนุญาตให้สามารถเข้ามาอยู่ในหมวดนี้ได้ ซึ่งการจะไลฟ์ผ่านเพจได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เราจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึงการหาระบบดูดออเดอร์และระบบช่วยจัดการหลังบ้านที่มีประสิทธิ์ภาพอย่าง JamboLive ที่สามารถช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ขายของได้อย่างมีประสิทธิภาพมาขึ้น หากเราสามารถทำได้และพร้อมที่จะท้าทายตัวเอง ก็มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของก้าวสำคัญในเส้นทางสู่ความสำเร็จของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รุ่นใหม่บนแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Facebook ได้แน่นอน 2. มีใช้ฟังก์ชันและฟีเจอร์ของเฟสบุ้คต่าง ๆ ในทางการค้า อย่าลืมว่าโซเชี่ยลมีเดียมีการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันกับผู้ใช้งานอยู่สม่ำเสมอทั้งในฝั่งร้านค้าและลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพจเฟสบุ๊ค เพื่อให้กระตุ้นให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างราบรื่นและความสนุกสนาน สิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ควรจะทำ คือการศึกษาและการเลือกใช้ฟังก์ชันที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจนั่นเอง เพื่อให้สามารถแสดงออกจุดขายที่เข้ากับตัวธุรกิจและแนวทางของพ่อค้าแม่ค้าสมัยใหม่อย่างเหมาะสมค่ะ และที่สำคัญอย่าลืมนึกถึงความสำคัญของฟีเจอร์การชำระเงินด้วยนะ หากคุณต้องการให้เพจหรือการค้ามีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ไว้วางใจจากลูกค้า และส่งผลให้เกิดการกระตุ้นยอดขาย การเลือกใช้รูปแบบการจ่ายเงินที่สะดวกและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสิ่งนี้เองจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าให้กับการทำธุรกิจออนไลน์ของคุณอย่างแน่นอนค่ะ 3. ช่วยขยายกลุ่มฐานลูกค้าหรือสเกลร้าน การใช้เพจบนเฟสบุ๊คก็เปรียบเสมือนหน้าร้านในย่านการค้า คุณสามารถแสดงสินค้าหรือบริการได้อย่างเต็มที่และสามารถนำเสนอสิ่งที่คุณมีอย่างดีที่สุด เพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในที่ที่ลูกค้ากำลังพบปะกับคุณ อย่างไรก็ตาม บนเพจ Facebook เหล่านี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถสร้างความน่าสนใจและความตื่นเต้นให้กับลูกค้าได้อย่างเห็นผลทันที! อย่างไรก็ตาม Facebook ส่วนตัวนั้นก็เหมือนกับบ้านของเราที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรร ที่ยังคงความส่วนตัวไว้ แน่นอนว่าผู้คนก็คงไม่เดินผ่านไปเห็นบ้านของคุณอย่างแน่นอน ดังนั้นหากเราพูดถึงการมองเห็นของเพจ Facebook ที่เปรียบเสมือนร้านค้าในย่านการค้า จะเห็นว่ามีความน่าสนใจและมีผลตอบรับที่ดีกว่าอย่างแน่นอนค่ะ! 4. การโปรโมต ยิงโฆษณาใน Facebook ส่วนตัวนั้นทำไม่ได้น้า พ่อค้าแม่ค้ารู้หรือเปล่าคะ ว่า Facebook ส่วนตัวของเรานั้น ไม่สามารถโปรโมทหรือยิงโฆษณาได้ เพราะฉะนั้นหากเรามีเพจ Facebook ก็จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถโปรโมทร้านค้าร้านค้าออนไลน์ของเราผ่านการยิงโฆษณาใน Facebook ได้ด้วยค่ะ ส่งผลให้มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย 5. การใช้ระบบช่วยขายออนไลน์ แพลตฟอร์มช่วยขายต่าง ๆ อย่างเช่น ระบบดูดออเดอร์และระบบหลังบ้านสุดปังของ JamboLive ที่มีทั้งระบบการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ และ ฟีเจอร์ที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อีกมามาย จะช่วยซัพพอร์ตพ่อค้าแม่ค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในการแต่สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้เฉพาะเพจเท่านั้นนะ เพราะระบบช่วยขายของออนไลน์โดยปกติแล้วจะไม่สามารถใช้กับเฟสบุ้คส่วนตัวได้ เนื่องจากจะมีความเสี่ยงในการละเมิดความเป็นส่วนตัวนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นหากมีใครบอกว่าการไลฟ์ผ่านเพจ Facebook มักโดนปิดการมองเห็น และการใช้เฟสบุ้คส่วนตัวไลฟ์ขายของนั้นดีกว่า ก็ต้องบอกเลยว่าไม่จริงเสมอไปค่ะ เพราะเนื่องจากการโดนเพิ่มหรือโดนลดการมองเห็นนั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น จำนวนคนเข้ามาเยี่ยมชมเพจเราของเรา ผ่านการใช้แพลตฟอร์มเพื่อช่วยเปิดการมองเห็น หรือ หากเรามีการละเมิดข้อกำหนดชุมชนก็อาจจะมีโอกาสโดนลดการมองเห็นได้เช่นกันค่ะ ——————————————————————————————————— สนใจทดลองระบบดูดออเดอร์ฟรี! JamboLive Thailand พร้อมให้คำปรึกษาการตลาดออนไลน์ แชร์เคล็ดลับการขายของออนไลน์ให้ปัง รวมทั้งเคล็ดลับการเพิ่มยอดขาย และ เทคนิคไลฟ์สด Inbox >> http://m.me/jamboliveth ไลน์ @jamboliveth คลิก https://lin.ee/TZLkjfg
ดูเพิ่มเติม...